ถ้าพูดถึงเรื่องปฐมนิเทศพนักงานใหม่ และกระบวนการเตรียมความพร้อมของพนักงาน อยากให้คุณรู้ไว้ว่าการสร้างความประทับใจแรกเริ่มของพนักงานในกิจการของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ
คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานใหม่รู้สึกยินดี รู้สึกมีคุณค่า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานที่รออยู่ข้างหน้าอย่างเต็มความสามารถ
เราก็เลยอยากจะมาแนะนำเกร็ดความรู้เล็กน้อยสำหรับ คนที่กำลัง เปิดร้านซุปเปอร์สโตร์ เกี่ยวกับการดูแลพนักงานใหม่กันหน่อย
เพราะเมื่อร้านค้าของคุณขยายธุรกิจไปจนเติบโต คุณจึงต้องมีการจ้างพนักงานใหม่เพื่อให้พวกเขาจัดสต็อกสินค้าให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค
การรู้เท่าทันที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้พนักงานใหม่จึงเป็นเรื่องที่ควรรู้ไว้มากๆเลยค่ะ
(แต่สำหรับร้านค้าหรือกิจการแบบอื่น ถ้าอยากนำทริคนี้ไปปรับแต่งให้เข้าการกับดูแลพนักงานใหม่ของคุณ ก็ทำได้เช่นกันนะ)
1. สร้างความคุ้นเคยกับพนักงานใหม่
ลองอ่านเรื่องเล่าอันนี้ ที่จะนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องพนักงานใหม่ได้นะคะ
“มีผู้หญิงคนหนึ่งไปงานแต่งงานของเพื่อนที่มีครอบครัวใหญ่ ในงานเต็มไปด้วยผู้คนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นตา ชื่อของบางคนเธอก็ยังไม่รู้จัก อีกทั้งยังเป็นความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ที่เธอไม่คุ้นเคย
เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้เธอมากขึ้น มีคุณผู้ชายคนหนึ่งที่มีเจตนาที่ดีต่อเธอ ได้เตรียมนามบัตรที่มีชื่อ รูปถ่าย บ้านเกิด และอาชีพของทุกคนในงานมอบให้พวกเขาไว้ติดบนตัวเพื่อความสะดวกและสามารถบ่งบอกได้ว่าใครเป็นใคร
(ไม่เฉพาะแค่ให้ผู้หญิงคนนี้รู้ แต่ให้ทุกคนในงานบางคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ได้เห็นและรู้จักกันมากขึ้น)
และด้วยความพยายามของเขา เธอจึงรู้ว่าผู้หญิงที่ทำอาหารในงานแต่งงานเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่เธอ ซึ่งก็เป็นญาติที่รู้จักคนแรกที่เธอได้เจอในงานนี้นั่นเอง”
โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
วิธีการที่คล้ายกันนี้จะช่วยทำความคุ้นเคยกับพนักงานคนใหม่ โดยใช้โครงสร้างครอบครัวขององค์กรคือการทำบัตรพนักงาน มีชื่อ รูปภาพ และตำแหน่งงาน ของคนนั้น ๆ การทำแบบนี้ยังสามารถช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอับอาย
ตัวอย่างเช่น พนักงานใหม่ขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าโดยการให้เขาช่วยหยิบของที่ตกในขณะที่ตนกำลังจัดเรียงสต็อกอยู่ แต่กลับพบในภายหลังว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านที่เดินมาดู ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาต้องประหม่าและเขินอายแน่เลยค่ะ
สิ่งที่ควรทำนอกจากการใช้นามบัตร คุณยังสามารถใช้เว็บไซต์ หรือบอร์ดตามพื้นที่ เพื่อระบุว่า “ใครเป็นใคร” โดยจะมีรูปถ่าย ชื่อ และตำแหน่ง โพสต์ในเว็บไซต์หรือติดบนบอร์ดนั้น ๆ ก็จะเป็นตัวช่วยให้เขารู้จักทุกคนในร้านว่าคนนี้คือใคร ทำงานในตำแหน่งไหนของร้าน เขาจะได้วางตัวถูกนั่นเอง
นอกจากนี้การแนะนำตัวในครั้งแรกก็เป็นสิ่งสำคัญมากเลยนะ วันที่เขามาทำงานวันแรก คุณควรที่จะแนะนำให้พนักงานใหม่ได้รู้จักกันทุกคนเพื่อสร้างความคุ้นเคย
บอกให้พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร มีอะไรก็ให้ทุกคนช่วยบอกช่วยเตือนเขาและทำการต้อนรับเป็นอย่างดี แบบนี้จะทำให้เขาผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ
2. ให้เขาเริ่มต้นง่าย ๆ แต่น่าสนใจ
ระยะเวลาการเข้ามาทำงานแรก ๆ ของพนักงานใหม่ เขาอาจรู้สึกซับซ้อนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน แน่นอนค่ะว่าใคร ๆ ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ (แม้แต่ตัวเราเอง) เหตุการณ์ที่ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี
ให้คุณพิจารณาประสบการณ์จากมุมมองของพนักงานเก่าที่เคยมาทำก่อนหน้านี้ แล้วนำมาใช้เป็นมุมมองของพนักงานใหม่ พยายามทำให้เขาทำงานอย่างสนุก น่าสนใจ และเรียบง่ายที่สุด
คุณอาจจะให้พนักงานคนเก่าไปเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนงานให้ และบอกให้คนอื่น ๆ ในร้านคอยช่วยแนะนำ โดยเริ่มต้นจากการทำงานง่ายๆ
เช่น การเรียนรู้สินค้าและตำแหน่งที่สินค้านั้น ๆ วางในชั้นวางแต่ละจุด อย่าพึ่งให้เขาทำอะไรที่ยาก ๆ เพราะเขายังไม่รู้ตำแหน่งของทุกอย่างในซุปเปอร์สโตร์
หรือถ้าเป็นแคชเชียร์ คุณก็ให้แคชเชียร์คนเก่าประกบพนักงานใหม่เพื่อสอนการคิดราคาสินค้าในทุก ๆ วันจนกว่าเขาจะสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
หากทำเช่นนี้ คุณจะทำให้สมาชิกใหม่ในทีมของคุณรู้สึกมีคุณค่าเป็นที่ต้องการในทีม ทำให้เขาได้รับความสนใจและตื่นเต้นที่จะทำงาน
พยายามการสร้างอารมณ์เชิงบวกให้กับเขา อย่าพึ่งรีบร้อนหรือใช้อำนาจสั่งการเกินควรเพราะมันอาจทำให้เขาเกร็งเกินไปในช่วงเริ่ม
ถ้าคุณคอยพูดดี ๆ สอนแบบง่ายๆก่อน นั่นจะทำให้พนักงานใหม่เต็มใจที่จะทำงานให้ออกมาอย่างยอดเยี่ยม และมันจะทำให้งานในร้านดำเนินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็นค่ะ
อ่านบทความอื่น ๆ :
3. บอกถึงสิทธิประโยชน์ที่เขาจะได้รับ
ทุกกิจการหรือร้านค้าต่างๆจะต้องมี “สิทธิประโยชน์และสวัสดิการให้แก่พนักงาน”
สิ่งเหล่านี้จะดูมีค่ายิ่งขึ้นหากคุณบอกให้เขารู้ ซึ่งการแปะบอร์ดที่ประกอบไปด้วยตารางการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ เอกสารแบบฟอร์มสวัสดิการ และคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้านของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด
ให้คุณพาไปพนักงานใหม่ไปเรียนรู้ที่บอร์ดนี้พร้อมทั้งอธิบายขอบเขตงาน สวัสดิการ กฎข้อห้ามในร้านต่าง ๆ เขาจะได้เรียนรู้ว่าควรประพฤติตัวยังไง ให้รู้หน้าที่ของตัวเอง และทราบถึงสิ่งที่จะต้องทำในอนาคต
ทั้งนี้ยังควรอธิบายให้เขารู้ว่าเขามีสิทธิ์ได้รับอะไรบ้าง และเขาจะใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ได้อย่างไร หรือคุณจะโพสต์นโยบายและขั้นตอนเป็นลายลักษณ์อักษรลงในเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย
หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ บอกเขาในช่วงการปฐมนิเทศให้เขาได้ซึมซับเรื่อย ๆ ถ้าพวกเขาได้รู้ถึงสิทธิที่เขาจะได้รับ เขาน่าจะมีกำลังใจในการทำงานให้ร้านของคุณต่อไปอย่างสุดความสามารถ
ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ควรจะมีให้พวกเขา ก็อาจจะเป็น
- ค่าล่วงเวลาหรือโอที
- วันหยุด
- วันลาตามกฎหมาย
- ประกันสุขภาพและค่ารักษาในครอบครัวของพนักงาน
- เบี้ยขยัน
- ประกันสังคม เป็นต้น
4. ปฐมนิเทศพวกเขาแบบส่วนตัว
เราขอเตือนว่า.. ‘อย่าใช้เวลาวันเดียวให้หมดไปกับการสอนงานในวันแรก’ ให้จัดลำดับความสำคัญโดยการให้พนักงานใหม่มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับเพื่อนร่วมงานแทน
อย่างที่เราได้กล่าวยกตัวอย่างไว้ข้อที่ผ่านมาว่า ให้พิจารณามอบหมายพนักงานเก่า(จะเรียกว่าพี่เลี้ยงก็ได้) ให้เป็นที่ปรึกษาต้อนรับหรือสอนงานให้กับพนักงานใหม่แต่ละคน
เพื่อให้พวกเขารู้สึกถึงวิธีการที่จะปฏิบัติตัวตามพี่เลี้ยงของเขา ซึ่งช่วงเวลาแห่งการทำงานในตอนแรก ๆ นี้ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสบการณ์ของพนักงานใหม่
ดังนั้นคุณควรปลูกฝังแก่พี่เลี้ยงที่เป็นพนักงานเก่าให้ดีว่าควรสอนเขาในเรื่องไหนบ้าง และต้องไม่สอนงานเขาภายในวันเดียว ให้กำหนดแผนว่าในหนึ่งวันจะให้เขาเรียนรู้อะไร วันต่อไปจะให้เขาทำอะไร จากนั้นให้พี่เลี้ยงติดตามผลว่าเขาได้พัฒนาการทำงานไปถึงไหนแล้ว
ถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือ วันแรกคุณให้สอนเรื่องตำแหน่งสินค้า วันต่อ ๆ มาสอนเรื่องการเติมสต็อกสินค้า วันถัดไปสอนถึงการเช็คสต็อก แบบนี้เป็นต้น
บางทีถ้าร้านของคุณใหญ่ เขาอาจจะไม่สามารถเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งที่กล่าวมาได้เพียงวันเดียว ให้พี่เลี้ยงของเขาทยอยสอนจนกว่าเขาจะสามารถจำและทำได้ด้วยตัวเอง ถ้าเขาทำได้เร็วและมีพัฒนาการที่ดี คุณก็ควรชมเขาบ้าง เพื่อสร้างกำลังใจในการทำงานต่อไป
5. ใช้แนวคิดของ HRM เข้ามาช่วย
การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ หรือ Human Resource Management (HRM)
คือกระบวนการจัดการบุคลากรในองค์กร เพื่อให้บุคลากรหรือพนักงานสามารถดำเนินการทำงานตามหน้าที่ของตนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดปัญหาให้น้อยที่สุด
รวมถึงการพัฒนาให้บุคลากรมีศักยภาพเพิ่มขึ้น เพื่อการปฎิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และจะนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์กรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งการบริหารบุคคลตามแบบของ “The Harvard Model” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ‘พนักงานที่มีความสุขจะทำงานได้อย่างประสิทธิผลมากขึ้น’
โดยแก่นของแนวคิดนี้ก็คือการต้องสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากรในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ หรือพูดง่าย ๆ ว่าพนักงานในร้านหรือกิจการของคุณต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั่นเองค่ะ
เพราะเมื่อบุคลากรได้รับการตอบสนองจากองค์กรที่ดีและเหมาะสมแล้ว ก็จะเกิดแรงจูงใจที่ดีในการทำงาน มีความสุขในการทำงาน สังคมการทำงานก็จะดีขึ้น งานจะมีประสิทธิภาพขึ้น
และสุดท้ายแล้วผลประกอบการขององค์กรก็ดีขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้ค่อนข้างจะเป็นแนวคิดกระแสหลักและทรงอิทธิพลมากที่สุด ทั้งยังมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายที่สุดด้วยนะคะ
ดังนั้นหากคุณอยากให้กิจการร้านค้าซุปเปอร์สโตร์ของคุณดำเนินไปอย่างดี และมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยมคุณควรสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานและองค์กร
รวมถึงทำให้พนักงานใหม่ในร้านของคุณมีความสุข มีความประทับใจต่อสังคมการทำงาน เพื่อร้านของคุณจะเติบโตทั้งโครงสร้างองค์กร ยอดขายและศักยภาพของพนักงานยังไงล่ะ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม :
✔ สรุป
แน่นอนว่าในช่วงแรก ๆ ของการทำงาน เมื่อพนักงานใหม่ของคุณกลับบ้านไปเขาจะบอกเล่ากับครอบครัวของเขา เกี่ยวกับวันแรกของการทำงาน ถ้าเขาประทับใจและนำไปพูดว่า
“ทำงานที่นี่ดีจัง เจ้านายใจดี พี่ๆที่ทำงานมาก่อนก็ให้คำปรึกษาอย่างดี มีแรงฮึดในการทำงานมาก ๆ เลย”
มันก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากๆใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าคุณไม่สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก ปล่อยปะละเลยพวกเขา จนเขานำไปพูดต่อว่า
“มาถึงวันแรกก็สั่งงาน ชี้ให้ไปทำนู่นทำนี่ ผมยังไม่รู้ตำแหน่งของที่วางสินค้าเลย ผมทำไปแบบงง ๆ แล้วก็มาดุผมว่าผมไม่เป็นงาน แบบนี้ทำจะทำต่อดีไหม?”
ถ้าเขาเอาไปพูดแบบนี้ล่ะแย่เลย นอกจากจะทำให้พนักงานใหม่รู้สึกไม่ดี มันยังทำให้ภาพลักษณ์ของร้านคุณไม่ดีไปด้วย ยิ่งถ้ามีการนำไปโพสต์ลงโซเชียลหรือบอกต่อ ๆ กัน ยิ่งจะทำให้ร้านค้าของคุณถูกมองเสียหายไปกันใหญ่ และถ้าให้คุณเลือกผลตอบรับได้ คุณก็ต้องเลือกในเชิงบวกอยู่แล้ว
ฉะนั้นดูแลพนักงานให้ของคุณให้ดี ๆ เพราะ “คน” คือทรัพยากรที่มีค่าควรให้ความใส่ใจมากที่สุดในองค์กรต่าง ๆ
หรือแม้กระทั่งพนักงานในร้านค้าซุปเปอร์สโตร์ของคุณเองก็ต้องใส่ใจพวกเขาให้มาก ๆ นะ เพราะมันจะส่งผลให้ร้านของคุณมีประสิทธิภาพและสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก :
- Steps for Creating a Positive New Employee Onboarding Experience by thebalancecareers
- The Harvard Model of HRM Management Essay by ukessays