ประโยชน์ของการทดลองใช้ชั้นวางสินค้า ที่คุณต้องรู้!

“บริเวณชั้นวางสินค้า เป็นจุดสำคัญ ที่ผู้คนจะมามีส่วนร่วมในร้านค้า” 

เป็นตำแหน่งในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า และจุดศูนย์รวมของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การเดินผ่านของลูกค้า และตัดสินใจซื้อในที่สุด

เมื่อคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ในการช้อปของลูกค้า “การทดลองชั้นวางสินค้า” จึงมีความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ แล้วจะมีความสำคัญยังไง ตามมาดูกันค่ะ 🙂

สารบัญ

• ทำไมต้องทดลองชั้นวางสินค้า?
• ประโยชน์ของการทดลองชั้นวาง
• วิธีทดลองชั้นวาง
• สรุป 

ทำไมต้องทดลองชั้นวางสินค้า? 

ชั้นวางสินค้า มีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่แข่งขันกันโดดเด่น เพื่อให้ลูกค้าเลือกสรร จึงเป็นเหตุว่า จะทำยังไงให้สินค้าขายออกได้มากที่สุด 

ก่อนอื่นเลยนะคะ

• คุณต้องหา Pain point ของลูกค้า (หรือ ปัญหาของลูกค้าที่เกิดจากสาเหตุบางอย่าง ซึ่งมันทำให้ลูกค้าไม่ชอบ หรือทำให้ใช้ชีวิตลำบากขึ้น) 
• จุดขายที่น่าสนใจบนชั้นวางในร้านค้า ที่จะนำมาพัฒนาต่อได้ 

หลังจากนั้นให้ส่งเสริมสิ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์ แก้ไขจุดที่บกพร่องให้ร้านค้าของคุณออกมาสมบูรณ์แบบ และตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด

การจัดระเบียบชั้นวาง และการจัดเรียงสินค้าที่ดี มันจะทำให้เกิดความชัดเจนของสินค้า ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงเรื่องของการซื้อได้

ยิ่งเมื่อคุณต้องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะต้องทดลองสิ่งเหล่านี้ในชั้นวางก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถ “ใช้งานได้จริง” บนชั้นวาง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์สำหรับการแตกสายผลิตภัณฑ์อีกด้วยค่ะ 

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม :

• ป้องกันความผิดพลาด สต็อกสินค้าได้แม่นยำ… ต้องทำตาม 5 วิธีนี้! 
• 5 แผนผังร้านค้า ที่ถูกใช้โดยแบรนด์ระดับโลก มีอะไรบ้าง?

ประโยชน์ของการทดลองชั้นวาง 

การทดลองชั้นวางสินค้า จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพหมวดหมู่สินค้าในร้านของคุณ ซึ่งมันก็ยังช่วยส่งเสริมการขาย และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้าด้วยนะ

ถ้าลิสต์เป็นข้อ ๆ ก็จะมี

1. ทำให้คุณใส่ใจกับรายละเอียดมากขึ้น

เพราะการจัดเรียงสินค้าบนชั้นวาง ไม่ใช่ว่าจะจัดอะไรขึ้นไปก็ขายได้นะคะ มันต้องมีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคก่อนว่าเป็นยังไง 

ทำให้คุณต้องค้นหา และทำความเข้าใจแรงขับเคลื่อนของผู้บริโภค ในการตัดสินใจซื้อสินค้านั้น ๆ   

2. เห็นจุดที่ต้องแก้ไขและเพิ่มการจัดวางที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณดูแล้วว่า การวางแนวชั้นวาง จะส่งผลให้ภาพรวมมันออกมาเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็น

• โทนสี(ทั้งของชั้นวางและสินค้า) 
• รูปแบบการจัดวาง
• ตำแหน่งของป้ายโฆษณาและป้ายราคา
• การผสมผสานสินค้าของแต่ละแบรนด์ 

เมื่อเห็นภาพรวมแล้ว คุณจะรู้ว่า ต้องแก้ไขยังไงมันถึงจะเหมาะสม และคุณจะสามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างที่กล่าวมาได้ตรงจุดมากขึ้น 

3. มั่นใจว่าสินค้าโดดเด่น

ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการทดลองชั้นวางก็คือ คุณจะมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คุณนำไปเติมบนชั้นวางจะถูกออกแบบมาได้อย่างดีที่สุด มีความโดดเด่นบนชั้นวางของ และอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดแล้วจริง ๆ 

4. ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อผู้บริโภค

การออกแบบชั้นวางให้ดีที่สุด จะส่งผลให้ผู้โภคเดินช้อปได้สะดวก เข้าถึงสินค้าได้ง่าย และไม่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เป็นอันตรายภายหลัง 

เพราะเมื่อคุณเห็นภาพของการจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางแล้ว และจากนั้นลองมองภาพว่า ผู้บริโภคไปเดินชมสินค้าของคุณจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะรู้ว่ามันมีผลกับการช้อปปิ้งของพวกเขายังไง และจะได้พัฒนาไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิมได้ค่ะ 

วิธีทดลองชั้นวาง 

สำหรับกระบวนการทดลอง มี 3 วิธีหลักดังนี้ 

1. ทดลองในร้านค้าจริง

มันก็คือการติดตั้งชั้นวาง และจัดเรียงสินค้าที่ร้านจริง ๆ ของคุณเลย โดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมใด ๆ

สมมติว่า… คุณเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ แบบห้องเดียวในตึกแถว อันนี้อาจจะใช้ การทดลองในร้านค้าจริง ก็เพียงพอแล้ว เพราะพื้นที่ในร้านมีขนาดเล็ก 

สามารถทดลองชั้นวางได้เลยว่า

• จะติดตั้งไว้ตำแหน่งไหนถึงจะเหมาะ 
• ชั้นวางสามารถวางสินค้าได้เยอะหรือไม่ 
• ชั้นวางควรจัดเรียงผลิตภัณฑ์ตัวไหนไว้บ้าง 

ซึ่งถ้าเป็นร้านเล็ก ๆ แบบนี้ มันสามารถทำได้โดยไม่ต้องดูแผนภาพหรือทดสอบในห้องจำลองค่ะ

2. ทดลองในห้องปฏิบัติการจำลอง

หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า Virtual Shelf มันคือ การจำลองต้นแบบทางกายภาพ ของชั้นวางในร้านค้าขึ้นมาในห้องที่เสมือนจริง 

ซึ่งผ่านการทดลองกับผู้บริโภคในสถานที่ทดลองนั้น ๆ โดยมันก็จะมีการควบคุมผ่านผู้เชี่ยวชาญอีกที 

ถึงแม้วิธีนี้อาจไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ในบ้านเรา (ด้วยความที่อาจจะเปลืองงบประมาณ) แต่ก็มีคนเคยทำนะคะ นั่นก็คือ.. BigC ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในบ้านเรานั่นเองค่ะ 

เมื่อปี 2013 บิ๊กซีได้สร้าง “ร้านค้าเสมือนจริงลอยฟ้า (Moving Virtual Store)” บนรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นการสร้างแพลตฟอร์ม และความสะดวกคุ้มค่าของการช้อปปิ้งออนไลน์ ในระบบขนส่งมวลชน 

ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการติดตั้งคิวอาร์โค้ดบนราวมือจับในรถไฟฟ้าบีทีเอส และยังตกแต่งตัวถังของรถไฟฟ้า ให้เป็นร้านค้าเสมือนจริงลอยฟ้าของบิ๊กซีด้วย 

และในตอนนั้น ก็มีโครงการจะนำร้านค้าเสมือนจริง (Virtual Store) เข้าไปตั้งอยู่ในเขตที่พักอาศัย โดยเฉพาะคอนโดมีเนียม เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้บริโภค และเพิ่มช่องทางและความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าด้วย  (อ้างอิงจาก medium ) 

3. ทดลองด้วยภาพเสมือนจริง

อันนี้มันคือ การใช้ Planograms ซึ่งมันคือแผนภาพจำลองชั้นวาง ว่าคุณจะจัดเรียงสินค้าอะไรลงไปในร้านค้า ซึ่งก็จะเป็นการทดสอบอย่างหนึ่งว่า 

• ชั้นวางของคุณจะมีสินค้าอะไรบ้าง
• ชั้นวางจะติดตั้งในตำแหน่งไหน
• ชั้นวางมีพื้นที่เพียงพอสำหรับสินค้าในแต่ละประเภทหรือไม่ 

โดยวิธีนี้ จะทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น ว่าจะทำร้านออกมาเป็นแบบไหนค่ะ และมันสามารถใช้กับร้านค้าใหญ่ ๆ ที่มีรายละเอียดเยอะ ๆ ด้วย  

มันสามารถลดทอนเวลา คือคุณไม่ต้องไปทดลองจัดเรียงสินค้าจริง ๆ คุณก็สามารถเรียงสินค้าในแผนภาพได้ 

ซึ่งแต่ละกระบวนการก็มีข้อดี – ข้อเสีย ที่แตกต่างกันนะคะ การที่จะเลือกว่าจะใช้วิธีไหน นั่นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งลักษณะร้านค้า, ขนาดของร้านค้า, ข้อกำหนดของทางร้าน, หรือจุดมุ่งหมายของร้านค้านั้น ๆ ว่าใช้กระบวนการไหนมันจะเวิร์คกับร้านนั้น ๆ มากที่สุด 

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม :

• 9 เคล็ดลับจัดร้านขายของชำง่ายๆ ให้ดึงดูดลูกค้าได้อย่างล้นหลาม 
• มาเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าของคุณด้วย Planogram กันเถอะ!