10 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในวงการค้าปลีก

10 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในวงการร้านค้าปลีก

แม้ว่ายุคปัจจุบันนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะมาทางสายเทคโนโลยีหรือ IT ที่ล้ำสมัยซะส่วนใหญ่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักธุรกิจสายร้านค้าปลีกก็มีชื่อติดโผอันดับมหาเศรษฐีที่รวยมากที่สุดเช่นกัน

อะไรที่ทำให้พวกเขารวยมากขนาดนี้ ? พวกเขามีข้อคิดในการใช้ชีวิตหรือมีวิธีการดำเนินธุรกิจอย่างไร ? PN Storetailer จะรวบรวมข้อมูลให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ 

สารบัญ 

  1. นักธุรกิจระดับโลก
  2. นักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จในไทย

ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลจาก Forbes/billionaires ณ วันที่ 25/5/2021 ซึ่งอันดับมหาเศรษฐีและจำนวนเงินของพวกเขานั้นสามารถขึ้นลงได้ตลอดเวลาเนื่องจากหุ้นมีขึ้นมีลง

ฉะนั้นอันดับและจำนวนทรัพย์สินจะไม่ได้เหมือนเดิมตลอดนะคะ หากคนอ่านอยากทราบอันดับและจำนวนเงินของพวกเขาแบบเรียลไทม์สามารถเข้าไปดูได้ที่ The world’s real time billionaires by forbes ได้เลยค่ะ

ซึ่งคนเขียนจะคัดเลือกนักธุรกิจร้านค้าปลีกที่มีเรื่องราวการเริ่มต้นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ความพยายาม บากบั่น มุมานะ Passion และหัวในเรื่องการค้าของพวกเขา เอามาประกอบกับอันดับความร่ำรวยและรายได้ ณ ปัจจุบัน เพื่อจะได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ค่ะ

โดยเราจะแบ่งเป็นนักธุรกิจระดับโลก 5 คน กับนักธุรกิจของประเทศไทย 5 คน รวมเป็น 10 คนนะคะ

1. นักธุรกิจระดับโลก 

นักธุรกิจที่เปิดร้านค้าปลีกและ สร้างแบรนด์ ขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จจนตอนนี้ร่ำรวยระดับโลกนั้นมีเยอะมาก ๆ  แต่ละคนก็มี Story ที่แตกต่างกัน เราไปดูกันว่าแต่ละคนมีความน่าสนใจอย่างไร

1. Sam Walton (แซม วอลตัน) – Walmart

 
แซม วอลตัน นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ผู้ก่อตั้งวอลมาร์ท

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในด้านร้านค้าปลีกคนแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Sam Walton บิดาแห่งการค้าปลีกในประวัติศาสตร์ของอเมริกัน เขาคือคนที่สร้าง Walmart ขึ้นมาและทำให้วอลมาร์ท กลายเป็นร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 1 ( อ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ ☛ Walmart คือธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก )

จุดเด่น : จากเด็กที่ทำงานรีดนมวัว.. สู่เจ้าพ่อวงการค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา  

How it started : เมื่อตอนเด็ก ๆ แซมทำงานทุกอย่างที่เขาทำได้ เคยทำงานรีดนมวัวใส่ขวดไปส่งให้ลูกค้า เวลาว่างก็หารายได้เพิ่มอีกทางหนึ่งซึ่งคือการส่งหนังสือพิมพ์ รับจองโต๊ะเพื่อแลกกับมื้ออาหาร และทำงานอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัว 

Turning point : เก็บเงินที่หามาได้ไปซื้อแฟรนไชส์ร้านค้าปลีก Ben Franklin ใช้ทักษะกลยุทธ์ด้านราคาที่เขามีอยู่ทำให้ร้านเติบโต 3 เท่าภายใน 3 ปี จากนั้นก็บุกตลาดร้านค้าปลีกและเปิด Walmart ขึ้นในปี ค.ศ. 1962

How it’s going

  1. Walmart มี 11,000 สาขา ใน 28 ประเทศทั่วโลก
  2. ได้รับการจัดอันดับ จากนิตยสาร Fortune ให้เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ ค.ศ. 2013-2019
  3. ลูกหลานของปู่แซมติดอันดับคนที่รวยที่สุดในโลกเยอะมาก โดยลูกทั้ง 3 คนของเขา
  • Alice Walton รวยที่สุดในโลกอันดับ 17 มีทรัพย์สิน 66.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • Jim Walton รวยที่สุดในโลกอันดับ 18 มีทรัพย์สิน 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • Rob Walton รวยที่สุดในโลกอันดับ 19 มีทรัพย์สิน 64.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

นอกจากนี้ยังมีหลานของเขาอีกหลายคนที่ติดอันดับคนรวยที่สุดในโลกและรวยที่สุดในอเมริกา ถ้านำทรัพย์สินของ Walton ทั้งหมดมารวมกัน พวกเขาจะกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว

คำคม Sam Walton

Quotes by Sam Walton

  1. “There is only one boss. The customer. And he can fire everybody in the company from the chairman on down, simply by spending his money somewhere else. → ลูกค้าคือเจ้านายที่แท้จริง และเขาสามารถไล่ทุกคนในบริษัทตั้งแต่ประธานลงมาออกจากตำแหน่งได้ง่าย ๆ เพียงแค่เอาเงินไปอุดหนุนบริษัทอื่น” 
  2. “Swim upstream. Go the other way. Ignore the conventional wisdom. → ว่ายทวนน้ำ เลือกทางที่แตกต่าง ไม่เป็นจำเป็นต้องตามกระแสเหมือนคนอื่น” 

✎ แรงบันดาลใจของคนเปิดร้านมินิมาร์ท, ร้านขายของชำ ร้านซูเปอร์สโตร์ และอื่น ๆ 

2. Amancio Ortega (อามันซิโอ ออร์เตกา) – ZARA 

 
อามันซิโอ ออร์เตกา นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซีอีโอแบรนด์ ZARA

Amancio Ortega นักธุรกิจชาวสเปน เจ้าของ Inditex Group ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า Fast Fashion อย่าง ZARA แบรนด์ที่ทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี 

จุดเด่น : จากเด็กที่เป็นลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้าเล็ก ๆ .. สู่เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าสุดฮอตที่ดังไปทั่วโลก

How it started : อามันซิโอเกิดให้หมู่บ้านเล็ก ๆ มีพ่อเป็นกรรมกรก่อสร้างรถไฟ มีแม่เป็นแม่บ้าน ด้วยความลำบากของครอบครัว เขาจึงออกจากโรงเรียนมาทำงานที่ร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า Gala 

Turning point : เมื่อทำงานที่ร้านเสื้อผ้า เขาจึงได้เรียนรู้กระบวนการทอผ้า ตัดเย็บเสื้อผ้า สังเกตถึงความต้องการของคนบริเวณนั้น สั่งสมประสบการณ์ในวงการเสื้อผ้าและผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาจนกระทั่งในปี 1975 ก็ได้ถือกำเนิดร้านเสื้อผ้าที่ชื่อว่า ZARA ขึ้นมา 

How it’s going

  1. Inditex Group มีหลายแบรนด์อยู่ในเครือด้วยกัน เช่น Pull and Bear, Massimo Dutti Kiddy’s Class โดยมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก 
  2. ความนิยมของ ZARA ถึงขนาดที่ว่า ไม่เคยการโฆษณา ไม่จ้างแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมท แต่ใช้การเลือก ทำเลร้านค้า ที่ดีที่สุดและจัดหน้าร้านให้ดึงดูดใจเพื่อเป็นการเรียกลูกค้าแทน
  3. Amancio Ortega รวยมากที่สุดในโลกอันดับ 11 มีทรัพย์สินราว ๆ 88.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
คำคม Amancio Ortega

Quotes by Amancio Ortega

  1. “The customer has always driven the business model – ลูกค้าคือผู้ขับเคลื่อนโมเดลทางธุรกิจของเรา” 
  2. “Companies are comprised of human beings without the effort, professionalisms, and motivation of whom, no achievement could be made – บริษัทใดก็ตามที่ประกอบไปด้วยคนที่ปราศจากความพยายาม, ปราศจากความเป็นมืออาชีพ, ปราศจากแรงจูงใจ บริษัทนั้นจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้” 

✎ แรงบันดาลใจของคนเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่น, ร้านตัดเย็บ, ร้านตัดชุด และอื่น ๆ 

3. Phil Knight (ฟิล ไนท์) – Nike

ฟิล ไนท์ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จผู้ก่อตั้งไนกี้

Phil Knight มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้าชื่อดัง Nike (ไนกี้) เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในด้านของรองเท้ากีฬารวมถึงเครื่องแต่งกายที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเป็นอย่างมาก 

จุดเด่น : จากนักวิ่งมหาวิทยาลัยและนักบัญชี.. ผันตัวมาทำธุรกิจรองเท้าจนกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังติดตลาดทั่วโลก

How it started : ฟิล ไนท์ เป็นลูกเจ้าของสำนักพิมพ์ แต่พ่อไม่ต้องให้เขาใช้เส้นสายในการเข้าไปทำงาน ช่วงซัมเมอร์ในวัยมัธยมฟิลจึงไปทำงานให้กับสำนักพิมพ์คู่แข่ง ซึ่งเขาทำงานในตำแหน่งนักข่าวกีฬา เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้เป็นนักวิ่งของมหา’ลัยจนคว้าแชมป์ในรายการ Varsity Letters หลายปีด้วยกัน 

Turning point : ฟิลค้นหาตัวเองในช่วงที่กำลังศึกษาต่อปริญญาโท ว่านอกจากกีฬาแล้ว เขาชอบอะไรอีกบ้าง และเขาได้พบว่าเขาสนใจด้านธุรกิจ จึงได้หุ้นกับ Bill Bowerman โค้ชสมัยมหา’ลัยของเขาเพื่อนำเข้า Onitsuka Tiger มาขายในอเมริกา (และในระหว่างที่รอตัวอย่างรองเท้าที่ส่งมา เขาได้ทำงานเป็นนักบัญชีเพื่อเลี้ยงชีพไปพร้อม ๆ กัน) 

เขาเป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้า Onitsuka Tiger ได้สักพัก แต่เกิดความไม่ลงรอยกันในภายหลังจึงยกเลิกสัญญา ฟิลจึงเริ่มคิดค้นผลิตรองเท้าเป็นแบรนด์ของตัวเอง ได้ชื่อมาว่า Nike 

โดยในช่วงปี ค.ศ. 1983 ไนกี้โตขึ้น 3,000% ภายในเวลา 10 ปี จากการที่ใช้นักกีฬาชื่อดังเป็น Influencer ให้กับแบรนด์ 

How it’s going

  1. Nike กลายเป็นแบรนด์รองเท้าอันดับต้น ๆ ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก มีพรีเซนเตอร์เป็นนักกีฬาดัง ๆ ทั่วทุกแขนง ทั้งฟุตบอล, เทนนิส, บาสเกตบอล และอื่น ๆ 
  2. Phil Knight วางมือทั้งหมดจากไนกี้เมื่อปี ค.ศ. 2016 ในวัย 80 ปี เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว แต่กระนั้นฟิลและครอบครัวยังเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 25 และรวยเป็นอันดับที่ 17 ในสหรัฐอเมริกา มีทรัพย์สินราว 51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คำคม Phil Knight

Quotes by Phil Knight : “Make history or be a part of it – จงสร้างประวัติศาสตร์หรืออย่างน้อยก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมัน”

✎ แรงบันดาลใจของร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา, ร้านขายของเท้า

4. Karl Albrecht and Theo Albrecht – Aldi

 
คาร์ลและเทโอ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการก่อตั้ง Aldi

Karl Albrecht (คาร์ล อัลเบร็ชท์) และ Theo Albrecht (เทโอ อัลเบร็ชท์) สองพี่น้องนักธุรกิจชาวเยอรมันที่ประสบความสำเร็จในการเปิดร้าน Aldi ร้านค้าปลีกที่มีทั้งร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต จนกลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยมากที่สุดในเยอรมนี 

จุดเด่น : จากร้านขายของชำธรรมดากลายเป็นร้านสะดวกซื้อที่ขยายสาขาไปทั่วอย่างยิ่งใหญ่ จนกระทั่งรวยที่สุดในประเทศเยอรมนี

How it started : ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง Karl Albrecht และ Theo Albrecht เข้ามาดูแลร้านขายของชำต่อจากคุณแม่ของพวกเขา 

Turning point : พวกเขาเปลี่ยนจากร้านขายชำธรรมดาให้กลายเป็นร้านสะดวกซื้อราคาถูกที่คนทั่วไปสามารถซื้อได้อย่างประหยัด มันเวิร์คมากจนทำให้ภายในปี ค.ศ. 1960 Aldi สามารถขยายสาขาไปได้มากถึง 300 สาขาทั่วเยอรมนี

How it’s going

  1. สองพี่น้องได้แบ่งร้านกันเป็นสองฝั่ง (เนื่องจากคนหนึ่งอยากขายบุหรี่ แต่อีกคนหนึ่งไม่อยากขาย) ซึ่งปัจจุบันหากนำสาขาทั้งสองฝั่งมารวมกันจะมีร้านค้าของ Aldi มากกว่า 10,000 สาขา  
  2. Karl คนพี่ (ผู้ไม่อยากขายบุหรี่) ได้ Aldi Süd ทางตอนใต้ไปดูแลทั้งหมด 
  3. ส่วน Theo คนน้อง (ผู้ต้องการขายบุหรี่) ได้ Aldi Nord ทางตอนเหนือไปดูแล 
  4. ปัจจุบันแม้คาร์ลและเทโอจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกของพวกเขาก็มารับช่วงต่อ
  5. โดย Aldi Süd ลูกของคาร์ลมาดูแลต่อ ซึ่งก็คือสองพี่น้อง Beate Heister และ Karl Albrecht Jr. ผู้ที่รวยที่สุดอันดับ 1 ในประเทศเยอรมนีและรวยที่สุดอันดับ 34 ของโลก มีทรัพย์สินทั้งหมดราว ๆ 41.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  6. Theo Albrecht Jr. ลูกของเทโอเข้ามารับช่วงต่อ Aldi Nord ทำให้เขาและครอบครัวกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 98 มีทรัพย์สินทั้งหมดราว ๆ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เขายังอยู่ในลิสต์คนที่รวยที่สุดในเยอรมนีอันดับ 5 ไม่เคยหลุดจาก Top 10 เลย
คำคม Karl Albrecht

Quotes by Karl Albrecht : “There are only two ways to establish competitive advantage: do things better than others or do them differently – มีเพียงสองสิ่งในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน คือทำให้ดีกว่าคนอื่นและทำสิ่งที่แตกต่างออกไปจากคนอื่น”

✎ แรงบันดาลใจของคนที่กำลังจะเปิดร้านขายของชำ, เปิดร้านมินิมาร์ท ร้านซูเปอร์สโตร์ และอื่น ๆ

5. Estée Lauder (เอสเต ลอเดอร์) – Estée Lauder

 
Estée Lauder

Estée Lauder นานผู้หญิงเก่งผู้สร้างแบรนด์ Estée Lauder เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นผู้สร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่ผู้หญิงทั่วโลกส่วนใหญ่รู้จักกันดี

จุดเด่น : จากการขายครีมที่ร้านทำผม .. สู่แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก

How it started : พ่อแม่ของเอสเตนั้นอพยพมาจากฮังการี อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์เล็ก ๆ ในนิวยอร์ก ซึ่งเอสเต ลอเดอร์ สนใจเรื่องความสวยความงามตั้งแต่เด็ก จุดเริ่มต้นคือลุงชาวฮังกาเรียนที่เป็นนักเคมีมาที่บ้านของเธอ เขาได้ทดลองผลิตครีมขึ้นมา เธอเฝ้าดูสิ่งที่ลุงของเธอทำและหลงใหลในครีมนั้นจนมันจุดประกายเธอได้

Turning point : เอสเตนำครีมที่เธอผลิตขึ้นมาเองไปขายในร้านทำผม เธอใช้วิธีพูดสรรพคุณของครีมให้ลูกค้าที่มานั่งทำผมคนแล้วคนเล่า ด้วยทักษะการขายที่มาพร้อมกับคุณภาพของครีม จึงทำให้เกิดการพูดปากต่อปากว่าครีมของเธอนั้นดี จนในปี ค.ศ. 1946 เอสเตและสามีของเธอ Joseph Lauder เปิดบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอางขึ้นมา โดยนำร้านอาหารเก่า ๆ มารีโนเวทเป็นโรงงาน

How it’s going

  1. Estée Lauder Companies Inc. ขยายกิจการจนเติบโตกลายเป็นแบรนด์เครื่องสำอางอันดับต้น ๆ ของโลก ยังมีอีกหลายแบรนด์ในเครือ อาทิ La Mer, Bobbi Brown, MAC, และ Tom Ford Beauty
  2. Leonard Lauder ลูกชายคนโตของเอสเต รวยมากที่สุดในโลกอันดับที่ 64 มีทรัพย์สินราว ๆ 26.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  3. ลีโอนาร์ด คลุกคลีกับการทำธุรกิจจากแม่มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงได้ดูแลกิจการของบริษัทต่อจากเอสเตมามากกว่า 30 ปี จนในปี ค.ศ. 1999 เขาได้วางมือจากตำแหน่ง CEO แต่ปัจจุบันเขายังดำรงตำแหน่งประธานกิตติคุณและเป็นที่รู้จักทั่วทั้งบริษัทในนาม “Chief Teaching Officer” 
คำคม Estee Lauder

Quotes by Estée Lauder : “

  1. “If you push yourself beyond the farthest place you think you can go, you’ll be able to achieve your heart’s dream. – ถ้าคุณผลักดันตัวเองไปจุดที่ไกลที่สุดที่คุณคิดว่าจะไปได้ คุณจะสามารถบรรลุความฝันในหัวใจได้”
  2. “I didn’t get there by wishing for it or hoping for it, but by working for it. – ฉันไม่ได้ไปถึงความสำเร็จได้โดยการอธิษฐานหรือรอคอยความหวัง แต่ฉันสำเร็จได้ด้วยการทำงานเพื่อมัน”

แรงบันดาลใจของคนที่จะทำธุรกิจเปิดร้านเครื่องสำอาง, สาว ๆ ที่รักสวยรักงาม, สาว ๆ ที่อยากขายเครื่องสำอาง

2. นักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จในไทย 

ในประเทศไทยมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมายที่ร่ำรวยจนติดอับดับ Thailand’s 50 Richest by forbes  *ข้อมูล ณ วันที่ 29/5/2021

1. คุณธนินท์ เจียรวนนท์ – CP Group, 7-Eleven

ธนินท์ เจียรวนนท์ ซีอีโอซีพีกรุ้ป นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในไทย

คุณธนินท์ เจียรวนนท์ หรือที่ทุกคนต่างเรียกกันว่า เจ้าสัวธนินท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยการครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศไทยมาหลายปี

จุดเด่น :  จากแคชเชียร์.. สู่มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศไทย 

How it started : พ่อแม่ของคุณธนินท์ เป็นชาวจีนแต้จิ๋วอพยพมาอยู่ที่ไทย พวกเขาใช้อาชีพค้าขายเป็นหลักในการดำรงชีพและเริ่มทำธุรกิจร้านค้าปลีกมาตั้งแต่ต้น มีชื่อเสียงด้านการเกษตร โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ผักและอาหารสัตว์ 

เมื่อเล่าเรียนเกี่ยวกับการค้าขายมากขึ้นที่ฮ่องกงจนจบมาตอนอายุ 19 ปี คุณธนินท์ได้เริ่มทำงานด้วยการเป็นแคชเชียร์ที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ 

Turning point : เมื่ออายุ 22 ปี เขาได้ไปทำงานที่สหสามัคคีค้าสัตว์ ซึ่งเป็นกิจการเกี่ยวกับการรับซื้อสัตว์ ฆ่า และชำแหละเนื้อสัตว์ เขาได้เรียนรู้การทำงานที่นี่ถึง 3 ปี จากนั้นก็ลาออกไปช่วยกิจการที่บริษัทของครอบครัวในฝ่ายบริหารทั่วไปและการตลาด และได้พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงทำการตลาดเชิงรุก จนสามารถขยายกิจการไปลงทุนที่ต่างประเทศ โดยการไปตั้งโรงงานอาหารสัตว์ทั่วโลก เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง เบลเยียม ฯลฯ 

How it’s going

  1. เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์รายใหญ่ที่สุดในโลก และมีหลากหลายกลุ่มธุรกิจในเครือรวม 13 กลุ่มด้วยกัน 
  2. 7-Eleven (เซเว่น อีเลฟเว่น) ธุรกิจร้านสะดวกซื้อยอดนิยม ที่ถูกซื้อสิทธิประกอบกิจการค้าปลีกมาโดย CP All ขยายสาขาไปทั่วไทยและต่างประเทศ โดย 7-Eleven ทำกำไรให้กับ CP เป็นอย่างมาก มีสาขา 71,100 สาขากว่า 17 ประเทศทั่วโลก และมีเป้าหมายจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 13,000 สาขา ภายในสิ้นปี ค.ศ. 2021
  3. กลุ่มซีพีเพิ่งประมูล Tesco Lotus กลับไปเป็นของตัวเองด้วยมูลค่า 10.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้ที่ Hypermarket คือ)
  4. ปัจจุบัน เจ้าสัวธนินท์ (Dhanin Chearavanont) ติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 103 มีทรัพย์สินราว ๆ 16.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงครองแชมป์คนที่ร่ำรวยมากที่สุดในไทยอันดับ 1 ร่วมกับ พี่น้องเจียรวนนท์ มีทรัพย์สินรวมกันราว ๆ 27.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คำคม คุณธนินท์ เจียรวนนท์

Quotes by Dhanin Chearavanont

  1. “การเป็นเจ้าของกิจการ ต้องควบคุมตัวเองให้มากกว่าพนักงานมาก และต้องขยันกว่าใครอีกด้วย” 
  2. “การทำธุรกิจ ต้องแก้ปัญหา อย่ามองว่าเหนื่อย ล้า แต่ให้มองว่าเหมือนการเล่นเกมส์ การมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา ต้องทุ่มเท ยิ่งเผชิญปัญหาเยอะจะยิ่งเก่ง”

✎ แรงบันดาลใจของคนที่จะเปิดร้านค้าปลีก. ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายของชำ 

2. ครอบครัวจิราธิวัฒน์ – ห้างสรรพสินค้า Central

ครอบครัวจิราธิวัฒน์ เจ้าของเซนทรัล

ครอบครัวจิราธิวัฒน์ ครอบครัวนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นเจ้าของกลุ่มเซ็นทรัลที่ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, ร้านอาหาร, อสังหาริมทรัพย์, สื่อสิ่งพิมพ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่รวยอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

จุดเด่น : จากร้านขายของชำ 1 คูหา สู่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูและกลุ่มธุรกิจหลายแขนงครอบคลุมทั้งในไทยและต่างประเทศ

How it started : คุณเตียง แซ่เจ็ง ชาวจีนไหหลำ อพยพมาทำมาค้าขายอยู่ที่ประเทศไทย เริ่มจากการยืมเงินพ่อตาจำนวน 300 บาท มาประกอบธุรกิจเล็ก ๆ เปิดร้านกาแฟและขายของเบ็ดเตล็ด โดย ตั้งชื่อร้าน ว่า “เข่งเส่งหลี”

Turning point : ในปี พ.ศ. 2490 คุณสัมฤทธิ์ ลูกชายคนโตของคุณเตียงเสนอให้มีการเปิดร้านขายหนังสือ ชื่อร้านว่า ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง เป็นห้างเซ็นทรัลสาขาแรกที่สี่พระยา โดยเริ่มจากการเซ้งห้องแถว 1 คูหา เวลาต่อมาก็ได้นำสินค้าหลากหลายประเภทเข้ามาขาย เพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น อาทิ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ 

จนสามารถขยายร้านได้มากขึ้น และเริ่มที่จะนำแบรนด์เนมมาขาย เมื่อขยายสาขาเพิ่มไปอีก แล้วก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อเหลือแค่ ห้างเซ็นทรัล 

How it’s going

  1. ปัจจุบันตระกูลจิราธิวัฒน์มีกลุ่มธุรกิจในมือกว่า 9 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์, สินค้าอุปโภคบริโภค, วัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน, การตลาดสินค้าแฟชั่น, โรงแรมและรีสอร์ท, เครื่องเขียน หนังสือ และออนไลน์, ร้านอาหาร รวมทั้งเซ็นทรัลเวียดนาม 
  2. จิราธิวัฒน์เป็นตระกูลที่ใหญ่มาก มีมากกว่า 200 คนในตระกูล มีการบริหารจัดการทรัพย์สินและธุรกิจอย่างดีด้วยระบบกงสี และมีกฏว่าห้ามขายหุ้นให้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนในตระกูล 
  3. ตระกูลจิราธิวัฒน์ มีทรัพย์สินราว ๆ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่ำรวยมากที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 4 และไม่เคยหล่น Top 5 คนที่ร่ำรวยที่สุดในไทยเลย 
คำคม คุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์

Quotes by Chirathivat Family

  1. ทศ จิราธิวัฒน์ – “Central cannot be only a department store. This was the beginning of our success. If we remained just as Central Department Store, we could not have grown as big as we are today. เซ็นทรัลไม่ได้เป็นเพียงห้างสรรพสินค้า นี่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของเรา ถ้าเรายังคงทำเหมือนกับว่ามันเป็นแค่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เราก็ไม่สามารถเติบโตได้อย่างทุกวันนี้”
  2. สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ – “ต้องทุ่มเททำงานหนักมากกว่าคนอื่น เพราะเราเป็นเจ้าของกิจการ และถ้าทุ่มเทแล้วยังสู้คู่แข่งไม่ได้ ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิม”

✎ แรงบันดาลใจของคนที่จะเปิดร้านค้าปลีก, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายของชำ, ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง, ร้านเครื่องเขียน, ร้านหนังสือ

3. ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว – TOA

ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ TOA

คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ หัวเรือใหญ่ของธุรกิจสีทาบ้าน ที่มีทั้ง TOA, Captain, SuperShield, 4Seasons เข้ามาอยู่ในลิสต์รายชื่อมหาเศรษฐีไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2561 หลังจากทีโอเอเข้าเทรดในตลาดหุ้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560

จุดเด่น :จากร้านฮาร์ดแวร์ยี่ปั๊วขายกลอนประตู.. สู่อาณาจักรสีทาบ้านระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

How it started : ในปี พ.ศ. 2501 เริ่มต้นบุกเบิกธุรกิจเป็นครั้งแรกที่ตึกแถวคูหาเดียว ซึ่งขายเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ เป็นยี่ปั๊วขายกลอนประตู ต่อมาก็ขยับขยายเป็นร้านวัสดุก่อสร้าง ก่อนจะเริ่มผลิตสีทาไม้ออกจำหน่ายเอง โดยมีผู้นำหลักคือ ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ 

Turning point : จากตอนแรกที่ดำเนินธุรกิจเฉพาะกับครอบครัวมาราว 50 ปี แต่เมื่อปี พ.ศ. 2560 ได้นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกด้วย Stark ผู้ผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ล บริษัทนี้บริหารโดย คุณวนรัชต์ ลูกชายของเขา ทำให้บริษัทเติบโตเพิ่มทรัพย์สินได้เกือบเท่าตัวถึง 82% 

How it’s going

  1. ปัจจุบันตระกูลตั้งคารวคุณมีธุรกิจอยู่ในมือ เช่น สีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์, เคมีภัณฑ์, ผู้จำหน่ายรถยนต์, อสังหาริมทรัพย์ รวมถึง Stark ผู้ผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ล
  2. ทีโอเอมีฐานการผลิตทั้งในไทย, เวียดนาม, สปป.ลาว, เมียนมา, มาเลเซีย และกัมพูชา และเป็นผู้ผลิตสีทาอาคารรายใหญ่ที่สุดของไทย และคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้นในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  3. ปัจจุบัน ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยอันดับที่ 7 มีทรัพย์สินทั้งหมดราว ๆ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คำคม คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ

Quotes by Prachak Tangkaravakoon

  1. “ผมเริ่มต้นจากศูนย์ ตั้งแต่ขี่จักรยานส่งน้ำมันทาไม้” 
  2. “คนไหนไม่ทุ่มเท แล้วมันจะสำเร็จ ผมไม่เชื่อ..”

✎ แรงบันดาลใจของการเปิดร้านวัสดุก่อสร้าง, ร้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์

4. ศุภชัย อัมพุช และครอบครัว – The Mall

ศุภชัย อัมพุช ผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ (The Mall) เขาเป็นตำนานของการริเริ่มธุรกิจที่มาจากศูนย์อีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และมักจะเป็นผู้ริเริ่มในการทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับใครอยู่ตลอด จน ณ ตอนนี้ เดอะมอลล์ก็กลายเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่ทุกคนไปใช้บริการอยู่เป็นประจำ

จุดเด่น : จากเด็กนับขวดเหล้าในโรงเหล้า.. สู่อาณาจักรเดอะมอลล์และห้างสรรพสินค้าสุดหรูหลายแห่งในประเทศไทย

How it started : คุณศุภชัยเริ่มต้นจากการทำงานรับจ้างทั่วไป จนกระทั่งได้ไปประจำอยู่ที่ยี่ปั๊วขายเหล้า โดยการเป็นคนนับสต็อกขวดเหล้า ต่อมาก็ได้ย้ายตำแหน่งไปเป็นเสมียนอยู่ยี่ปั๊วอีกร้านหนึ่ง ชื่อร้านประไพสวัสดิ์ 

Turning point : เมื่อทำงานคลุกคลีกับธุรกิจเหล้ามาตลอด ทำให้คุณศุภชัยเก่งกาจเรื่องนี้มาก เป็นผลให้เจ้าของร้านชื่อคุณประไพแบ่งหุ้นลมให้เขา ทำให้ในปี พ.ศ. 2502 เขามีเงินเก็บราว ๆ  4-5 แสนบาท 

เขาจึงได้เริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ธุรกิจแรกคือ โรงเหล้า ตามมาด้วยโรงหนัง, ไนท์คลับ, อาบอบนวด ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ เป็นธุรกิจที่คุณศุภชัยบุกเบิกมาทั้งสิ้น (เขามักจะเป็นผู้ริเริ่ม แล้วให้คนอื่นบริหารต่อ พอมีคนเริ่มหันมาทำตาม เขามักจะขายเพื่อไปทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร) จนกระทั่ง พ.ศ. 2024  ได้เปิดเดอะมอลล์สาขาแรก ย่านราชดำริ และมีสาขาต่อ ๆ มา ซึ่งลูก ๆ ของเขา ก็ช่วยบริหารกิจการมาจนถึงปัจจุบัน 

How it’s going

  1. ปัจจุบันคุณศุภลักษณ์ อัมพุช ลูกสาวของคุณศุภชัย เป็นหัวเรือใหญ่ในการบริหารกิจการของ The Mall Group ซึ่งเธอก็เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินกิจการช่วยคุณศุภชัยมาตั้งแต่เริ่มสร้างโครงการเดอะมอลล์ ราชดำริ 
  2. ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้คุณศุภลักษณ์และลูกหลานของคุณศุภชัยด้วยนะคะ ที่สานต่อการบริหารธุรกิจนี้จนสามารถขยายต่อไปได้อย่างยิ่งใหญ่ 
  3. นอกจากห้างเดอะมอลล์แล้ว ยังมีธุรกิจในเครืออีกมากมาย อาทิ The Emporium, EmQuartier, Siam Paragon และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็เป็นห้างระดับ Luxury ที่รวบรวมแบรนด์สุดหรูจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่
  4. คุณศุภลักษณ์ อัมพุช และครอบครัว ติดอันดับ 20 ของคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยมีทรัพย์สินราว ๆ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คำคม คุณศุภลักษณ์ อัมพุช

Quotes by Supaluck Umpujh

  1. “พ่อทำงานเช้า กลางวัน เย็น เราตั้งใจ เรามุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้พ่อภูมิใจ ฉันเสียสละชีวิตของฉันให้เดอะมอลล์ ก็เพราะฉันรักพ่อ” 
  2. “ดูแลกันและกันด้วยความรักแบบครอบครัว แต่ไม่ลืมความเป็นมืออาชีพในการทำงาน”
  3. “ถ้าคนหมดกำลังใจก็ไม่มีอะไรทำ กำลังใจคือคุณก็ต้องมีความเชื่อ หรือความศรัทธาว่าฉันจะต้องไปให้ได้ วันหนึ่งล้มลงไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะลุกขึ้นมาใหม่ไม่ได้”

✎ แรงบันดาลใจของการขยันทำงานเก็บเงิน จนสามารถเปิดธุรกิจและการริเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ

5. ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ – โอสถสภา

เป็นครอบครัวที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดี เพราะเป็นครอบครัวที่ก่อตั้ง “โอสถสภา” บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โดยผลิตภัณฑ์เด่น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นยาและเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น ยาทัมใจ, ยาอมโบตัน, M-150, เป๊ปทีน, C-Vitt ฯลฯ และยังมีของใช้อย่าง เบบี้มายด์, ทเวลฟ์พลัส

จุดเด่น : จากร้านขายยาเล็ก ๆ ที่สำเพ็ง.. สู่อาณาจักรโอสถสภาที่มีสินค้าครองใจคนไทยมายาวนานกว่าศตวรรษ

How it started : จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2434 โดยคุณแป๊ะ แซ่ลิ้ม ตอนแรกคุณแป๊ะเปิดร้านขายของเบ็ดเตล็ดย่านสำเพ็งชื่อร้าน “เต็กเฮงหยู” แต่ได้เปลี่ยนมาขายยาต่าง ๆ เพราะคุณแป๊ะได้นำสูตรยาจีนโบราณชื่อว่า ยากฤษณากลั่น ซึ่งมีสรรพคุณบรรเทาโรคปวดท้องต่าง ๆ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 จึงทำให้ยาได้รับความนิยม จึงได้ผลิตยาขายเรื่อยมา 

Turning point : หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2517 ธุรกิจก็ใหญ่โตจากการผลิตสินค้าออกมาขายในหลายรูปแบบ

  • คุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นผู้นำเครื่องดื่มชูกำลังมาบุกเบิกตลาดในไทยเป็นรายแรก ชื่อแบรนด์ลิโพ ทำให้ตลาดเครื่องดื่มขยายออกไป 
  • คุณรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ทายาทรุ่นที่ 4 ทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 จนเป็นแบรนด์ที่นิยมจนถึงตอนนี้, ปรับแบรนด์อุทัยทิพย์มาเป็นยูทิป, ดึงนักมวยแชมป์โอลิมปิกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และอื่น ๆ 
  • ปี พ.ศ. 2561 คุณเพชร โอสถานุเคราะห์ ทายาทรุ่นที่ 4 ตัดสินใจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

How it’s going

  1. ปัจจุบันโอสถสภาได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์กลายเป็น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)
  2. โอสถสภาได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหลักของบริษัทไว้จำนวน 27 เครื่องหมาย ผลิตสินค้าออกขายสู่ตลาดต่างประเทศเยอะมาก รวมถึงมีบริษัทร่วมทุนมากมาย
  3. ปี พ.ศ. 2564 คุณเพชรตัดสินใจขายหุ้นและลาออกจากการเป็น CEO
  4. ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ ร่ำรวยเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศไทย และมีทรัพย์สินราว ๆ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คำคม คุณเพชร โอสถานุเคราะห์

Quotes by Osathanugrah Family

  1. สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ “คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก เพราะใช้เวลาเปิดสมองเท่ากัน คิดเรื่องเล็กทั้งวัน มันก็จะเล็ก” 
  2. เพชร โอสถานุเคราะห์ “ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด เราต้องไม่ยึดติดและต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองเสมอ”

✎ แรงบันดาลใจของร้านขายยา, ร้านที่จะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง

✔ สรุป 

หลังจากที่เห็น “นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ” ในการทำธุรกิจร้านค้าปลีกทั้งหมดแล้ว เราก็สามารรถตอบได้แล้วนะ กับคำถามที่ว่า เพราะอะไรคนยังรวยได้เพราะร้านค้าปลีกอยู่ล่ะ? 

คำตอบคือ ก็เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่มาคู่กันน่ะสิ ‘ระหว่างเทคโนโลยีกับการใช้ชีวิตประจำวัน’

พวกเราใช้เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก แต่สุดท้ายแล้วก็อยากที่จะไปเลือกช้อปสินค้าบางอย่างด้วยตัวเองที่ร้านค้า เลือกที่จะไปสัมผัส ไปเห็น ไปทดลองเพื่อให้ได้ประสบการณ์และเลือกสิ่งที่ตรงกับใจตัวเองมากที่สุด

นี่แหละคงเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านค้าปลีกยังขายได้และรวยมากด้วย!

Sorces :

Ref Sam Walton

Ref Amancio Ortega

Ref Phil Knight

Ref Karl Albrecht and Theo Albrecht

Ref Estée Lauder 

Ref คุณธนินท์ เจียรวนนท์

Ref ครอบครัวจิราธิวัฒน์

Ref คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว

Ref The Mall

Ref โอสถสภา

ใส่ความเห็น