สำหรับใครที่กำลังคิดที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ คงอยากหาแนวทางที่จะไกด์ให้คุณไปได้ถูกทางใช่ไหมล่ะคะ? ไม่ต้องเครียดมากเกินไปนะคะ เพราะบทความนี้เราได้ลิสต์แนวทางการทำธุรกิจมาให้คุณได้นำไปเป็นไกด์ไลน์ไว้แบบครบถ้วนให้คุณไว้แล้วค่ะ
การที่คุณจะเริ่มต้นธุรกิจทำได้นั้น คุณต้องเตรียมความพร้อมอย่างละเอียดก่อนเริ่ม ควรตระหนักให้ลึกซึ้งว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นย่อมมีความผิดพลาดได้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ คุณต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องทันโลกทันสมัยนั่นเองค่ะ
และก่อนที่คุณจะเริ่มขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ คุณต้องสร้างแบรนด์ของคุณเองให้เป็นที่น่าจดจำ
แล้วรับคนที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกัน เมื่อคุณได้เปิดประตูสู่โลกของธุรกิจ โลกอีกแบบที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ร่ำรวยในอนาคต เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า Steps แต่ละอย่างมีอะไรกันบ้าง
10 แนวทางการเริ่มต้นทำธุรกิจแบบ Step by step
1. เริ่มศึกษาจากแบรนด์ที่ใกล้เคียง
สำหรับแนวทางการทำธุรกิจ ถ้าหากคุณกำลังจะเริ่มต้น คุณก็น่าจะมีความคิดอยู่ในหัวแล้วว่า “คุณต้องการจะขายอะไร?” หรืออย่างน้อยธุรกิจที่คิดไว้ต้องเป็นตลาดที่คุณคุ้นเคย เคยเข้าไปทำงาน หรือเคยเรียนรู้มาบ้างแล้ว
โดยต้องเรียนรู้จากผู้นำของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ ว่าพวกเขามีแนวคิดอย่างไร พวกเขามีกระบวนการทำงานอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ จากนั้นให้วิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อยของเขา และนำมาปรับกับการเริ่มต้นทำธุรกิจของคุณ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะเปิดธุรกิจเกี่ยวกับแบรนด์รถยนต์ คุณก็สามารถไปดูการนำเสนอและโปรโมทแบรนด์ต่าง ๆ ของ Tesla, Toyota, Ferrari, BMW และอื่น ๆ
ว่าแบรนด์ดัง ๆ เหล่านี้ เขาทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยคุณอาจจะกำหนดเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อนแล้วค่อยไต่ไปทีละขั้น ๆ แต่อย่าลืมว่าจะต้องมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองด้วยนะ
2. เขียนแผนธุรกิจ
เมื่อคุณมีความคิดในการเริ่มต้นที่ดีแล้วนั้น คุณต้องถามตัวเองเสมอกับคำถามสำคัญ 3 ข้อนั่นก็คือ
- อะไรคือจุดประสงค์ของธุรกิจของคุณ?
- เป้าหมายสุดท้ายในการขายของคุณคือใคร?
- คุณจะจัดหาเงินทุนสำหรับค่าเริ่มต้นของคุณอย่างไร?
คำถามเหล่านี้คุณต้องตอบได้ในแผนธุรกิจที่เขียนไว้อย่างดี เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมีข้อผิดพลาดมากมายจากธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม เนื่องจากบางคนเร่งรีบที่จะทำโดยไม่มีการไตร่ตรองแง่มุมเหล่านี้
ฉะนั้นควรทบทวนกับคำถามเหล่านี้และตอบให้ได้ หลังจากนั้นก็เขียนแผนธุรกิจของคุณได้เลย
3. ประเมินการเงินของคุณ
ทุกคนก็รู้ใช่ไหมคะ ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจมีราคาที่ต้องจ่าย.. ดังนั้นคุณสิ่งที่คุณต้องทำคือ
- กำหนดว่าคุณจะควบคุมค่าใช้จ่ายเหล่านั้นอย่างไร?
- คุณมีวิธีอย่างไรในการรวบรวมต้นทุนสำหรับการเริ่มต้นหรือว่าคุณจะต้องกู้เงิน?
- หากคุณกำลังวางแผนที่จะออกจากงานปัจจุบันเพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจของคุณ คุณมีเงินเก็บไว้เพื่อเลี้ยงตัวเองจนกว่าจะทำกำไรได้หรือไม่?
โดยวิธีที่ดีที่สุดคือค้นหาว่าต้นทุนการเริ่มต้นธุรกิจของคุณจะมีประมาณเท่าไหร่ และคุณจะต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ดี เพื่อที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจและคำนวณการเงินที่คุณควรจะมีนั่นเอง
4. กำหนดโครงสร้างธุรกิจ
ก่อนจะจดทะเบียนบริษัท คุณต้องตัดสินใจว่าเป็นนิติบุคคลประเภทไหน โดยโครงสร้างธุรกิจของคุณจะมีผลตามกฎหมายตั้งแต่ การยื่นภาษี ไปจนถึงความรับผิดส่วนบุคคล
แต่ถ้าหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น.. แล้วคุณ เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวเอง คุณต้องวางแผนที่จะรับผิดชอบหนี้และภาระทั้งหมดด้วยตัวเอง
ซึ่งคุณสามารถลงทะเบียนเพื่อเป็นเจ้าของคนเดียวได้ แต่.. ขอเตือนไว้ก่อนว่าเส้นทางนี้อาจส่งผลโดยตรงต่อเครดิตส่วนตัวของคุณ ดังนั้นควรจะระมัดระวังให้ดีนะคะ
หรืออีกวิธีหนึ่งคือ การเป็นหุ้นส่วน ตามชื่อหมายความว่าบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปจะต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องก้าวไปคนเดียว
หากคุณสามารถหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีทักษะเสริมให้คุณพัฒนาต่อไปได้ โดยปกติแล้วคุณควรเพิ่มคนเข้ามาในองค์กรเพื่อช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา เพราะคนหนึ่งคนมีทักษะและความคิดที่ไม่เหมือนกัน การมีคนเข้ามาช่วยจะทำให้ธุรกิจของคุณได้มีไอเดียใหม่ ๆ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตมากยิ่งขึ้นไปอีก
5. ลงทะเบียนกับรัฐบาล
ในการที่คุณจะเป็นองค์กรธุรกิจที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ คุณต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล หรือที่เรียกกันว่า จดทะเบียนพาณิชย์
บริษัทจะต้องมีเอกสารต่าง ๆ รวมถึงชื่อธุรกิจ วัตถุประสงค์ทางธุรกิจโครงสร้างองค์กร รายละเอียดหุ้นและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทของคุณ
โดยการจดทะเบียนพาณิชย์ เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำอย่างมาก เพราะนอกจากจะส่งเสริมให้ธุรกิจของเรายั่งยืนในระยะยาวแล้ว ยังเป็นการประกอบกิจการที่ถูกกฎหมาย
และอย่าลืมว่าจะต้องไปจดภายใน 30 วันหลังจากเริ่มกิจการนะ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้ากรมสรรพากรตรวจพบว่าบริษัทของคุณประกอบธุรกิจโดยไม่มีการจดทะเบียน ก็จะมีบทลงโทษตามมาได้ค่ะ
6. สร้างทีมของคุณ
แนวทางการทำธุรกิจข้อต่อมา หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะเป็นพนักงานคนเดียวล่ะก็ คุณจะต้องจ้างทีมงานที่ยอดเยี่ยม เพื่อทำให้คุณเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ได้อย่างราบรื่น แล้วฟอร์มทีมที่มีคุณภาพเพื่อบริหารงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ
Joe Zawadzki ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง MediaMath กล่าวว่า
“ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ความสนใจกับทรัพยากรของตนในส่วนของ ‘คน’ เป็นอย่างยิ่ง”
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า พนักงาน เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้บริษัทดำเนินต่อไปได้
เพราะถ้าหากมีบุคลากรที่ดี บริษัทก็มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นทุกองค์กรใหญ่ ๆ จะมี ‘ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล’ อยู่เสมอ
7. มีสวัสดิการที่ดีให้พนักงาน
เมื่อเรามีลูกจ้างหรือพนักงาน เราก็ต้องมีสวัสดิการที่ Support พวกเขา เช่น สภาพแวดล้อมที่ดี มีเครื่องดื่มหรือขนมสำหรับพักเบรก มีโอที มีชุดสำหรับพนักงงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อใจในการที่จะร่วมมือทำงานให้กับบริษัทของคุณอย่างเต็มความสามารถ
และหากธุรกิจของคุณจะมีพนักงาน สิ่งที่ต้องทำเลยก็คือการขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้พนักงาน
เพราะมันจะมีสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับ อย่างเช่น ค่ารักษายามเจ็บป่วย ค่าเงินชดเชย เงินสงเคราะห์บุตร ค่าใช้จ่ายยามตกงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งประกันสังคมเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทของคุณ อีกทั้งยังทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เหมือนเป็นการสร้างความสุขให้แก่ลูกจ้าง
เมื่อ “คน” ในบริษัทมีความสุข ก็จะตั้งใจทำงาน เมื่อลูกจ้างตั้งใจทำงานก็จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแรง
8. เลือกผู้ขาย
การดำเนินธุรกิจในบางครั้งอาจจะมีปัญหาเข้ามาให้แก้ และมีเรื่องที่น่าหนักใจ ทั้งปัญหายอดขายไม่ตรงเป้าหมายที่วางไว้ ปัญหาการขายหรือพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งคุณและทีมอาจจะไม่สามารถทำทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง
นั่นคือจุดที่ควรจะมีผู้ขายหรือเซลล์เข้ามาจัดทำให้อย่างเป็นระบบ อาจจะเป็นการขายผ่านทางโทรศัพท์, แอดมินเซลล์ที่ขายผ่านทางโซเชียลมีเดีย, รวมถึงถ้าคุณเปิดร้านค้าปลีก เช่น ร้านมินิมาร์ท ร้านวัสดุก่อสร้าง หรืออาจจะ เปิดร้านขายส่ง ก็ให้คุณจัดหาพนักงานขายบริเวณหน้าร้านที่เหมาะสม
โดยในทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่ระบบทรัพยากรบุคคลไปจนถึงระบบโทรศัพท์และโซเชียลมีเดีย มีไว้เพื่อซัพพอร์ตการขายของบริษัทและช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น
9. สร้างแบรนด์และทำการตลาด
ก่อนที่คุณจะเริ่มขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ คุณต้อง สร้างแบรนด์ และทำการตลาดโปรโมท ให้มีคนติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อพร้อมที่จะก้าวไปเป็นการทำธุรกิจอย่างแท้จริง โดยคุณอาจจะเริ่มจากสร้างโลโก้ ที่สามารถช่วยให้ผู้คนจำแบรนด์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งต้องสร้างแพลตฟอร์มทุกอย่างให้ครบครันสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบในองค์กร สถานที่ทำงาน โซเชียลมีเดีย IG FB Line@ รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท
โดยคุณควรจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อกระจายข่าวเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ อาจจะยิง Ads เพื่อให้คุณรู้จักธุรกิจของคุณมากขึ้น จากนั้นก็ขยันสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาอ่านพร้อมกับการโปรโมทแบรนด์ไปด้วย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในการส่งเสริมการขาย
แนวทางการทำธุรกิจขั้นเริ่มต้น อาจจะมีการเสนอคูปองส่วนลดต่าง ๆ ให้กับผู้ติดตามเมื่อคุณเปิดตัวสินค้า เป็นต้น
10. ปรับปรุงและขยายธุรกิจ
การเปิดตัวและการขายครั้งแรกของคุณเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของงานในฐานะผู้ประกอบการ ในส่วนของการทำกำไรและทำให้ธุรกิจลอยตัวอย่างราบรื่นอยู่เสมอ คุณจำเป็นจะต้องพัฒนาในทุก ๆ ด้านของบริษัท ทั้งพนักงาน เนื้อหาของงาน คุณภาพของสินค้าและบริการ
และที่สำคัญควรที่จะเปิดรับ Feed Back จากคนที่เคยใช้สินค้าและบริการของคุณไปแล้ว ว่าประทับใจไหม? หรือควรแก้ไขในเรื่องใดบ้าง
เพื่อให้ธุรกิจองคุณเติบโตและมีการพัฒนาอยู่เสมอ คุณอาจจะต้องใช้เวลา ใช้ความพยายามกับมันมากหน่อย
หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มมั่นคงและไปในทางที่ดีแล้ว คุณควรที่จะเริ่มคิดที่จะขยับขยายธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไป
✔ สรุป
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 แนวทางการทำธุรกิจ จาก PN Storetailer ค่ะ อาจจะดูมีความยากและต้องใช้ความพยายาม ความละเอียดรอบคอบ และต้องศึกษาหาความรู้อีกมากมาย หากสรุปแล้ว เนื้อหาทั้งหมดของเราจะมีดังนี้
- เริ่มศึกษาจากแบรนด์ที่ใกล้เคียง – ศึกษาแนวคิดและกระบวนการทำงานของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณเพื่อนำมาเป็นแนวทาง
- เขียนแผนธุรกิจ – โดยเริ่มจากการกำหนดจุดประสงค์ เป้าหมาย และการจัดหาเงินทุน
- ประเมินการเงินของคุณ – วางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น รวบรวมต้นทุน และวางแผนการเงินสำรอง
- กำหนดโครงสร้างธุรกิจ – เลือกว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวเอง หรือต้องการหุ้นส่วน
- ลงทะเบียนกับรัฐบาล – เพื่อการยอมรับอย่างเป็นทางการจดทะเบียนพาณิชย์ด้วยนะ
- สร้างทีมของคุณ – จ้างพนักงานและฟอร์มทีมที่มีคุณภาพเพื่อบริหารงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ
- มีสวัสดิการที่ดีให้พนักงาน – ต้องมีสวัสดิการที่ Support พวกเขา รวมถึงการขึ้นทะเบียนประกันสังคม
- เลือกผู้ขาย – หากธุรกิจของคุณมีสินค้า ควรหาพนักงานขายด้วย เช่น แอดมินตอบแชท เซลล์ทางโทรศัพท์ หรือพนักงานขายหน้าร้าน
- สร้างแบรนด์และทำการตลาด – ทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ ยิง Ads โปรโมท ทำคอนเทนต์ต่าง ๆ
- ปรับปรุงและขยายธุรกิจ – เช็กฟีดแบ็กและพยายามปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการอยู่เสมอ เมื่อเริ่มมั่นคงแล้ว ให้เริ่มคิดที่จะขยับขยายธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไป
นี่ก็เป็นเพียงแค่คำแนะนำเบื้องต้น ที่จะทำให้คุณได้นำไปใช้เป็นไกด์ไลน์สำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่อาจจะยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า
ไม่แน่นะคะ “ถ้าคุณมุ่งมั่นเต็มที่กับธุรกิจอย่างไม่ย่อท้อ คุณอาจจะเป็นเศรษฐีอีกคนหนึ่งในอนาคตก็เป็นได้ค่ะ “