10 แผนเตรียมจัดร้านปีใหม่ พร้อมเพิ่มยอดขายสำหรับร้านค้าปลีก!

10 แผนรับมือและจัดร้านปีใหม่

 Facebook IQ ได้ทำการสรุปข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยเกี่ยวกับการซื้อของในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งช้อปออนไลน์และหน้าร้าน โดยเป็นการรวบรวบข้อมูลช่วงเทศกาลย้อนหลังในหลายปีที่ผ่านมา ระบุว่า

คนไทย 70% ระบุว่าพวกเขาเริ่มจับจ่ายซื้อของสำหรับช่วงเทศกาลในเดือนธันวาคม ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะเริ่มซื้อของกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนประมาณ 33% และ เดือนธันวาคมประมาณ 45%

(อ้างอิงจาก twfdigital ) 

สถิติคนไทยในการซื้อของรับปีใหม่

สถิติการช้อปการคนไทยช่วงปีใหม่ – ภาพจาก  twfdigital

แล้วทำไมหลาย ๆ คนต้องรอให้สายเกินไป ถึงจะเตรียมร้านค้าของคุณให้พร้อมสำหรับช่วงเทศกาลล่ะคะ?

รู้แบบนี้แล้วมารีบ เตรียมตัวซะตั้งแต่ตอนนี้ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่จะจัดร้านปีใหม่ และทำสิ่งใหม่ ๆ ให้ร้านค้าปลีกของคุณในเทศกาลฮัลโลวีน คริสต์มาส และช่วงปีใหม่ เพื่อทำยอดขายได้ปังสุด ๆ กันดีกว่า

1. จ้างคนช่วยเพิ่มเฉพาะช่วงเทศกาล

ในการจัดร้านปีใหม่ช่วงเทศกาลที่ใกล้เข้ามานั้น มีหลายสิ่งมากมายที่คุณต้องเตรียมการ เพื่อให้พร้อมเต็มร้อยสำหรับวันที่จะมาถึง ลำพังตัวคุณเองหรือพนักงานที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอสำหรับการเตรียมงานทั้งหมด

ในช่วงเดือนกันยายนคุณควรจะเริ่มมองหาคนที่จะมาช่วยเหลือคุณได้ ตัวอย่างเช่น 

  • การจ้างพนักงานพาร์ทไทม์

ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกแบบไหน ในช่วงเทศกาลควรมีการประดับตกแต่งร้านเพิ่มเติมให้สวยงามอยู่เสมอ รวมถึงมีการสต็อกของที่มากขึ้นในร้านบางกลุ่ม

อย่างถ้าคุณมีร้านมินิมาร์ทคุณอาจจะต้องจ้างคนที่มาช่วยจัดตกแต่งร้านเพิ่มเติมให้สวยงาม อีกทั้งยังให้จัดสต็อกสินค้าให้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงได้อีกด้วย

  • พนักงานส่งของ

จะดีมากนะคะถ้าคุณมีพนักงานสำหรับรับของ-ส่งของชั่วคราว เนื่องจากคุณจะต้องพึ่งพาการขนส่งในช่วงนี้มาก เพราะคุณต้องซื้อของหลายอย่างในการเตรียมร้าน และลูกค้าบางรายไม่สะดวกมาหน้าร้านจึงสั่งผ่านออนไลน์

ฉะนั้นมันจะมีการแพ็คของ ส่งของที่ไปรษณีย์มากขึ้น การเตรียมคนส่งของจึงมีบทบาทสำคัญกับคุณมากขึ้นค่ะ

  • บริษัทซื้อสินค้าสต็อก รวมถึงออแกไนซ์จัดงาน

ถ้าคุณจะสั่งสินค้าเพิ่มเติม ยังไงคุณก็ต้องได้ติดต่อกับบริษัทที่ขายสินค้านั้นๆอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ในช่วงเทศกาลคุณจะวุ่นกับการติดต่อประสานงานกับบริษัทต่างๆ เพื่อตระเตรียมให้งานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ซึ่งบางร้านอาจมีกิจกรรมจัดในวันคริสต์มาสและปีใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ร้าน (และอาจมีส่วนให้ลูกค้ามาซื้อของที่ร้านมากขึ้นได้อีกด้วยนะ)  ซึ่งออแกไนซ์จัดงานก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือคุณได้ 

2. ฝึกพนักงานให้เตรียมตัว

ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่คุณจะต้องยุ่งมากจนอาจไม่มีเวลาสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างถี่ถ้วนนัก จึงจะนำมาซึ่งความผิดพลาดได้ง่าย 

การประชุมพนักงานจะช่วยให้แผนดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เพราะทุกคนจะได้ช่วยกันคิดและมีส่วนร่วมในการร่างแผนดำเนินการในบางส่วน

แน่นอนค่ะว่าคุณไม่สามารถคิดแผนทุกอย่างได้เพียงคนเดียว คุณต้องถามความเห็นจากทุกคนที่คุณดีลไว้ นำข้อมูลมารวบรวมอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ร่างแผนออกมาให้เป็นขั้นตอน และต่อมาคุณควรจะฝึกอบรมพนักงานในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

  • วิธีจัดร้านปีใหม่และขายสินค้า

ให้พนักงานได้เรียนรู้สินค้าในร้านอย่างละเอียด จัดแจงวิธีในการเช็คสต็อก คีย์ข้อมูล คิดเงินตรงเคาน์เตอร์ เช่น ถ้าเป็นร้านกิฟท์ช็อปควรฝึกให้ใครหนึ่งคนสามารถห่อของขวัญได้อย่างสวยงาม 

อบรมพนักงาน
  • วิธีการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

คุณต้องฝึกให้พนักงานของคุณทักทายลูกค้า ฝึกเรื่องการใช้น้ำเสียงที่ดี รวมถึงการชี้แนะสินค้าต่าง ๆ ให้มีความเป็นมิตรและเป็นกันเอง ฝึกการโน้มน้าวผู้ซื้อให้สอดคล้องกับโปรโมชั่นของร้าน แนะนำสิ่งที่น่าสนใจให้ลูกค้าได้อย่างคล่องแคล่วและน่าเชื่อถือ

ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ควรให้พนักงานแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลนั้น ๆ เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นว่าเราเตรียมตัวมากอย่างดี ไม่แน่นะคะ ถ้าพวกเขาเห็นเราตั้งใจเตรียมขนาดนี้ เขาอาจเข้ามาเป็นลูกค้าของเราตั้งแต่แรกที่เห็นเลยก็ได้ค่ะ 

  • วิธีสังเกตพฤติกรรมการขโมยของร้าน

บอกพวกเขาถึงทริคในการสังเกตคนขโมยของ เพราะถ้าคุณติดกล้องวงจรปิดมันอาจไม่สามารถมองเห็นได้หมด คุณจึงควรให้พนักงานสังเกตอย่างแนบเนียน 

3. กำหนดเวลาทำการของร้าน

เปิดร้านของคุณ

การกำหนดเวลาทำการไว้ล่วงหน้า จะทำให้ลูกค้ารู้ว่าควรที่จะมาใช้บริการของคุณในช่วงใด แต่อย่าลืมว่ายิ่งคุณเปิดให้บริการนานเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีโอกาสทำยอดขายเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

ฉะนั้นรีบกำหนดเวลาทำการซะตอนนี้ เพื่อที่คุณเองและพนักงานจะได้รู้ว่าควรเตรียมการทำงานอย่างไรในแต่ละช่วงเวลา ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดยังไงล่ะ 

อ่านบทความเพิ่มเติม :

4. กำหนดตารางเวลาพนักงานในช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดของคุณ

ประชุมพนักงาน

คุณจะต้องกำหนดตารางเวลาของพนักงานให้ชัดเจน ว่าแต่ละวันจะต้องทำอะไรบ้างให้รอบคอบมากที่สุด

เพราะยิ่งนักช้อปต้องรอน้อยมากเท่าไหร่ พวกเขาจะยิ่งเพลิดเพลินกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ร้านของคุณมากเท่านั้น 

อีกทั้งยังต้องวางแผนเผื่อฉุกเฉินไว้ ในกรณีที่พนักงานบางคนเจ็บป่วย, มีธุระด่วนกะทันหัน รวมถึงรับมือบริการลูกค้าที่อาจมีปัญหาให้ช่วงเวลาเร่งรีบนั้น การกำหนดให้ชัดว่าคนในร้านจะต้องทำอะไร จึงเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมให้รัดกุมมาก 

ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเปิดร้านเครื่องสำอาง ในช่วงปีใหม่คุณมีโปรโมชั่นลดราคาสินค้าในร้าน Sale 50% สินค้านั้นขายดีมากจนลูกค้าเบียดกันเพื่อแย่งซื้อของ คุณควรมีแผนการล่วงหน้าให้พนักงานรับผิดชอบส่วนนี้เพื่อบริการให้ลูกค้าพึงพอใจและรู้สึกยุติธรรมมากที่สุด

ดังนั้นการคิดแผนล่วงหน้าจึงสำคัญ คุณควรจะลิสต์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเป็นข้อๆแล้วร่วมกันคิดว่าจะจัดการอย่างไรให้เป็นไปอย่างราบรื่น 

5. โฟกัสไปที่การขายในทุก ๆ วัน

ผู้หญิงทำธุรกิจออนไลน์

การขายที่ดีที่สุดคือ การมีทีมงานที่ให้ความสำคัญกับการขายในทุก ๆ วัน ทำได้ด้วยการฟอร์มทีมกันทดลองรับมือก่อนที่เทศกาลจะเริ่ม ทำได้ด้วยการ 

  • สร้างสถานการณ์สมมติและให้พนักงานสวมบทบาทในการขายให้สมจริง 
  • ให้ทุกคนตระหนักถึงคุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้าที่แพงที่สุดในร้านเพื่อที่จะขายมันออกไปให้ได้เยอะๆ
  • ถ้าขายผ่านทางออนไลน์ด้วย ควรให้พนักงานทดลองการตอบแชทแน่นๆในทุกวัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องตอบจริงๆ จะได้รับมืออย่างเท่าทัน 

ควรจะทำให้เป็นกิจวัตรตั้งแต่ตอนนี้ยาวไปจนถึงเดือนธันวาคม จำไว้เสมอว่า คุณไม่ได้แค่จ้างพวกเขามาจัดหน้าร้านอย่างเดียว แต่จุดประสงค์หลักคือ เพื่อขายสินค้าให้ได้ตามเป้าหมาย

6. วางแผนการตกแต่งร้าน

ตกแต่งร้านค้าวันปีใหม่

การทำบรรยากาศให้ร้านครึกครื้นเข้ากับเทศกาลเป็นอะไรที่น่าสนุกมาก ไม่ว่าใครก็จะมีความรู้สึกที่พิเศษเสมอเมื่อปีใหม่ใกล้จะมาถึง

การจัดร้านปีใหม่ ทำให้พวกเราได้เห็นพู่ประดับเรียงรายตามร้าน ไฟระยิบระยับที่มองเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่น ต้นคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยของเล่นที่แขวนไว้ กล่องของขวัญสีสันสดใสชวนให้ลุ้นว่าข้างในนั้นมีอะไร

สิ่งเหล่านี้ใครก็ตามที่พบเห็นก็จะรู้สึกหัวใจพองโตทุกครั้ง เพราะมันเป็นนิมิตหมายอันดีว่า ถึงเวลาแล้วที่ปีใหม่และสิ่งใหม่ๆที่ดีจะเข้ามาในชีวิต 

คุณจึงควรประดับตกแต่งให้เข้ากับเทศกาลที่ใกล้จะมาถึง และอย่าลืมตกแต่งด้วยป้ายคำพูดที่สื่อถึงเทศกาลนั้นๆไว้ เพื่อให้ลูกค้าหรือคนที่พบเห็นได้อ่านมัน

อาจจะใช้คำอวยพรดีๆในวันปีใหม่ ข้อความที่ส่งพลังบวกให้พวกเขามีกำลังใจในการใช้ชีวิตในปีต่อไปก็ได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ ควรทำทุกอย่างที่ว่ามานี้ในโซเชียลมีเดียเช่นกัน

อ่านบทความน่าสนใจอื่น ๆ :

7. เตรียมรับมือกับปัญหา 

ร้านค้าที่มีลูกค้า

นอกจากการจัดร้านปีใหม่ ยังมีสิ่งที่คุณจะต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใน Holidays ที่จะมาถึงนั่นก็คือ 

  • “All hands on deck”

หรือการขอความร่วมมือจากทุกๆคน สิ่งนี้จะต้องมีในตอนที่เทศกาลเริ่มต้นขึ้น ซึ่งอาจจะมีช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิง เมื่อคุณต้องการความร่วมมือบางอย่างจากคนอื่นๆ

คุณควรมีลำโพงขยายเสียง หรือเสียงตามสาย เพื่อประกาศในสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทราบ 

  • ป้องกันการโจรกรรม

อย่าชะล่าใจกันนะ เพราะยิ่งคนเยอะมากเท่าไหร่ การขโมยย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

คุณควรมีการติดกล้องวงจรปิดอย่างรัดกุม และอบรมพนักงานอย่างเข้มงวด รวมถึงตอนที่รับพนักงานเข้ามาคุณต้องตรวจสอบประวัติของเขาอย่างถี่ถ้วนด้วยนะคะ 

  • ตรวจสอบสภาพอากาศ

คุณควรดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าด้วยว่าในวันที่คุณจัดกิจกรรมเปิดร้านนั้นจะมีฝนตกหรือพายุเข้าหรือไม่ ถ้ามีแล้วไฟดับคุณจะสื่อสารยังไง อย่าลืมเช็คให้ดีล่ะ 

  • หากของหมดสต๊อก

ในตอนที่ลูกค้ามีความต้องการจะซื้อมากๆ จะสร้างความไม่พอใจให้ลูกค้าถ้าเขาไม่ได้รับของ

คุณควรที่จะสต๊อกสินค้าให้พอกับความต้องการที่คาดว่าจะมี หรือทำโปรโมชั่นให้มีการจองล่วงหน้าผ่านออนไลน์ และนำสินค้ามาตามจำนวนการจองแล้วสั่งเพิ่มนิดหน่อยเผื่อขาดเหลือ 

8. สร้างเคล็ดลับสำหรับการช้อป

ของขวัญให้แม่

เวลาที่คนจะซื้อของขวัญ บางทีเขาก็นึกไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี และเลือกอยู่นานมาก ทำให้เขาอาจจะเสียเวลาและคิดไม่ตก แต่คุณช่วยพวกเขาได้!

ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเปิดร้านกิฟท์ช็อป คุณก็ทำ “คู่มือแนะนำของขวัญในเทศกาล” ขึ้นมา เช่น

  • แนะนำของขวัญสำหรับพ่อแม่
  • แนะนำของขวัญสำหรับหญิงสาว,ชายหนุ่ม
  • แนะนำของขวัญสำหรับคุณตาคุณยาย
  • แนะนำของขวัญสำหรับเด็ก 

และคุณก็ลิสต์เป็นข้อๆว่ามันควรมีอะไรบ้าง มันต้องเป็นสินค้าที่คุณมีในร้านด้วยนะ จะได้ขายของไปในตัวยังไงล่ะ

โดยคุณอาจจะทำเป็นโพสต์ใน Facebook หรือ Instagram ก็ได้ เพื่อโชว์ให้เขาเห็นและตัดสินใจเลือก พร้อมกับมีคำอธิบายว่าชิ้นไหนเหมาะกับใคร มันก็จะเป็นการส่งเสริมการขายสินค้าของคุณได้ดีทีเดียวล่ะ 

แต่ถ้าคุณเปิดร้านอย่างอื่น คุณก็ลองเอาแนวคิดนี้ไปใช้ก็ได้นะ

ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ที่ควรทำเมนูที่โปรโมชั่นให้ลูกค้าเลือกเฉพาะช่วงเทศกาล, ร้านขายอุปกรณ์ไอที ที่ควรจัดโปรแนะนำสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มคนในแต่ละช่วงวัย

เช่น iPads รุ่นไหนเหมาะกับคนวัยทำงาน , laptops รุ่นไหนเหมาะกับเด็กมัธยมปลาย และของขวัญอื่นๆที่สะท้อนถึงชีวิตประจำวันของพวกเขา

9. รู้ว่าควรจะโปรโมทอะไรในแต่ละสัปดาห์

ผู้หญิงใช้โน้ตบุ้ค

อันนี้เป็นตัวอย่างที่เราอยากจะแนะนำ เป็นแนวทางให้คุณไปปรับใช้กับการโปรโมทร้านของคุณเองนะคะ 

12 พ.ย. – วันกิจกรรมปาร์ตี้ในร้าน

19 พ.ย. – รวมสินค้า Sale 70% ส่งท้ายปี  

26 พ.ย. – แขกคนพิเศษของร้าน (คุณอาจจะใช้คนดังในย่านนั้นๆ คนที่เป็นชื่อเสียง หรือเป็นที่ชื่นชอบมาที่ร้านเพื่อเรียกความสนใจจากผู้คนให้มาที่ร้านของคุณ) 

3 ธ.ค. – วันช้อปของให้แม่ 

10 ธ.ค. – วันซื้อของให้พ่อ

17 ธ.ค. – วันซื้อของให้เด็กๆ 

หลังจากนั้นคุณก็โพสต์เพื่อโปรโมทตารางนี้ลงไปในโซเชียล ผู้คนก็จะได้มาซื้อของที่ร้านของคุณถูกวันตามแพลน 

ทริคอีกอย่างที่เราจะแนะนำคือ คุณสามารถเรียกลูกค้าเข้ามาในร้านของคุณด้วยการทำอะไรบางอย่างที่ไม่มีค่าใช้จ่าย จำพวก ของฟรี ของแถม

เช่น “ซื้อสินค้าชิ้นไหนก็ตามในร้านเกิน 100 บาท ห่อของขวัญให้ฟรี” , “ซื้อเครื่องครัวชิ้นได้ก็ได้แถมชุดแก้วน้ำ” เป็นต้น 

สิ่งที่น่าสนใจอีกประการคือเด็ก ถ้าคุณมัดใจเด็กให้เข้ามาที่ร้านคุณได้และทำให้เขาเพลิดเพลินมีความสุขกับร้านของคุณ พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กก็จะตามมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูสินค้าที่คุณขายด้วยนะว่าเหมาะสมหรือไม่ ยังไงก็ลองไปปรับใช้กันได้ค่ะ 

10. สร้างแผนทางโซเชียลมีเดีย 

การใช้โซเชียลมีเดีย

จากการศึกษาวิจัยผู้บริโภคของ Salesforce ในวันที่ 16-17 มิถุนายน 2020 พบว่า

47% ของผู้ซื้อทั่วโลกสนใจ “ช้อปปิ้งออนไลน์” ในช่วงวันหยุดปีนี้มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะปีนี้เกิดเหตุการณ์ไวรัส COVID19 ระบาดทั่วโลก ส่งผลกระทบให้คนไม่ค่อยอยากออกไปไหน ” 

การใช้โซเชียลมีเดียให้ถูกทางในช่วงนี้จึงมีประโยชน์อย่างมาก เพราะมันช่วยในเรื่องของยอดขายทางออนไลน์ของคุณ

เราจึงขอแนะนำเรื่องการทำโพสต์ดังนี้ โดยจะต้องทำโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทสินค้าทุกวัน อธิบายสินค้าเพื่อให้เห็นประโยชน์ของมันว่า

  • ควรซื้อให้ใคร? 
  • ของชิ้นนี้มีประโยชน์อย่างไร?
  • ผู้ให้จะได้อะไร?
  • ผู้รับจะได้อะไร? จากสินค้าตัวนี้ 

ทำแบบนี้ในทุกๆวันให้สอดคล้องกันอย่างน้อยวันละโพสต์สองโพสต์ (ถ้าคุณมีเวลาหรือพนักงานที่โพสต์สินค้าโดยเฉพาะ คุณก็ทำวันละหลายโพสต์ต่อวันก็ได้) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน

และเพิ่มอีกสองสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาส และคุณยังสามารถใช้วิดีโอ Facebook LIVE เพื่อไลฟ์สดให้ความรู้และเคล็ดลับที่ห้ามพลาดให้ผู้ติดตามของคุณได้อีกด้วยค่ะ 

บทความน่าสนใจอื่น ๆ :

✔สรุป

อ่านมาถึงตอนนี้ คุณมีแพลนในหัวแล้วรึยังคะ ว่าจะเตรียมรับมือกับช่วงเทศกาลและจัดร้านปีใหม่ได้อย่างไร

ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเช็คให้แน่ใจว่าคุณมีสินค้าเพียงพอที่ตอบสนองลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อรึยัง 🙂 ยังไงก็ขอให้ขายดิบขายดีกันทุกร้านในช่วงปีใหม่ที่ใกล้เข้ามานี้นะคะทุกคน

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก

ใส่ความเห็น