7 กลยุทธ์ขยายธุรกิจ จากขนาดเล็กไปสู่ขนาดใหญ่! ทำยังไงดี??

7 กลยุทธ์ขยายธุรกิจ จากขนาดเล็กไปสู่ขนาดใหญ่

ในช่วง 2-3 ปีแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจ ร้านค้าหรือบริษัทส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ความอยู่รอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี เมื่อทุกอย่างอยู่ตัวแล้ว

เจ้าของธุรกิจหลายคนคงมีความคิดที่อยากจะ “ขยายธุรกิจ” กันใช่ไหมล่ะคะ? 

แต่คุณอาจยังคิดไม่ออก หรือมองหากลยุทธ์ต่าง ๆ ได้ไม่ชัดเจน 

บทความนี้ Pn Storetailer ก็เลยจะมา บอกต่อกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการขยายร้านค้าหรือธุรกิจของคุณให้เติบโตจากขนาดเล็กไปเป็นขนาดใหญ่ได้!

แล้วจะทำยังไงได้บ้างนะ.. ตามมาอ่านกันค่ะ 🙂 

ลือกเรื่องที่จะอ่าน 

  1. รักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ดี
  2. ขอให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณแนะนำคนอื่นต่อ
  3. ขยายร้านค้าของคุณ
  4. เข้าร่วมงานแสดงสินค้า
  5. ลองใช้ Niche Market
  6. พัฒนาโอกาสการทำแฟรนไชส์
  7. ขยายไปที่การส่งออกต่างประเทศ

1. รักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ดี 

การหาลูกค้าใหม่ ๆ อาจไม่ใช่วิธีเดียวที่จะขยายธุรกิจของคุณนะคะ หลายครั้งที่ลูกค้าเก่า ๆ ของคุณนั่นแหละ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดขาย 

จากการศึกษาของ Superoffice บอกไว้ว่า 

“การดึงดูดลูกค้าใหม่ ทำให้บริษัทคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 5-25 เท่า! ในขณะที่การรักษาลูกค้าเก่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 5% แต่กลับเพิ่มผลกำไรให้บริษัทได้มากถึง 75%!!”

การรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อสินค้า

ตารางแสดงสิ่งที่มีผลต่อรายได้ของร้านค้าปลีกมากที่สุด (อันดับ 1 คือ การรักษาลูกค้า 52%)  ภาพจาก Superoffice

ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากคุณไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าจากคุณอีกครั้งค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพวกเขาได้รับประสบการณ์ บริการลูกค้า ที่ดีจากร้านนั้น ๆ 

ลองเก็บข้อมูลการช้อปปิ้งของลูกค้าขาจร ว่าเขามีพฤติกรรมยังไง? มีความชอบแบบไหน? จากนั้นใช้ข้อมูลดังกล่าว นำไปวางแผนการตลาด เพื่อจะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้าขาประจำ ที่กลับมาซื้อซ้ำอยู่เรื่อย ๆ 

Tips : ใช้กลยุทธ์ผสมผสานระหว่างการรักษาลูกค้าเก่า กับการหาลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตที่ดีที่สุดให้ธุรกิจของคุณค่ะ 

2. ขอให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณแนะนำคนอื่นต่อ 

แน่นอนว่า.. การหาลูกค้าใหม่ ๆ ก็เป็นแนวทางที่ดีอีกทางหนึ่ง(รองจากการรักษาลูกค้าเก่า) ที่จะทำให้คุณขยายธุรกิจไปได้ 

วิธีในการหาลูกค้าใหม่ ๆ ได้คือ “ขอให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณแนะนำคนอื่นต่อ”

ลูกค้าเหล่านี้ เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า ผู้คนในแวดวงสังคมหรือคนในที่ทำงานของพวกเขา ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดเป้าหมายของคุณเช่นกัน ตรงนี้มันจึงเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดี ไปสู่ลูกค้าใหม่ ๆ ได้ 

ผู้หญิงมีความสุขกำลังคุยกัน

อย่างไรก็ตาม.. สมมติว่าลูกค้าของคุณ แนะนำธุรกิจของคุณแบบผ่าน ๆ ไม่ได้จริงจัง ก็มีสิทธิ์สูงที่มันจะไม่ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า

คุณต้องหาวิธีที่จะทำให้เกิดการบอกต่ออย่างจริงจัง ขึ้นอยู่กับประเภท และขนาดของธุรกิจของคุณว่าจะสามารถทำได้ถึงระดับไหน 

เราขอแนะนำคร่าว ๆ ว่า 

  • ลองถามลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์ของคุณว่า มีใครอีกบ้าง ที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ 
  • กระตุ้นให้ลูกค้าปัจจุบันแนะนำต่อด้วยรหัสส่วนลด 
  • กระตุ้นให้ลูกค้าปัจจุบันโพสต์, แท็ก, แชร์ แบรนด์ของคุณลงในโซเชียลมีเดีย 

อ่านเพิ่มเติม :

3. ขยายร้านค้าของคุณ 

มีหลายวิธีในการขยายธุรกิจ โดยการทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ พร้อมใช้งานสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ 

  • เปิดร้านค้าในสถานที่ใหม่ 

สถานที่ใหม่ในที่นี้ เป็นได้หลายแบบ นอกจากจะเป็นสาขาที่เป็นที่ตั้งใหม่แล้ว ยังสามารถเป็นการเปิดร้านออนไลน์ได้ 

เช่น เว็บไซต์ที่มีร้านค้าออนไลน์ วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณ ต่อลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ ได้ค่ะ 

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายประชากรใหม่ 

ลองระบุกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ที่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ ในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายเริ่มต้นที่เป็นลูกค้าเก่า

เมื่อคุณระบุตลาดใหม่ได้แล้ว คุณโฆษณาสื่อออกไปในกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ  หรือจะสร้างแคมเปญการตลาดแล้วกำหนดให้เหมาะสม

ผู้หญิงกับแล็ปท็อป
  • ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา 

การทำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ช่วยให้คุณสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเก่าหรือลูกค้าปัจจุบันกลับมาซื้อมากขึ้น

นอกจากนี้ยังสามารถช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ที่อาจต้องการผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยค่ะ 

วิธีการทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสามารถ “ขยายส่วนแบ่งตลาดได้” สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มยอดขาย แต่ยังทำให้ โมเดลธุรกิจ ของคุณมีเสถียรภาพมากขึ้น 

เพราะคุณไม่พึ่งพาลูกค้าเป้าหมายเพียงกลุ่มเดียว แต่คุณมีแนวโน้มที่จะอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ 

4. เข้าร่วมงานแสดงสินค้า

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม เมื่อมีการจัดงานแสดงสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ให้รีบลงสมัครเลยค่ะ เพราะในงานแสดงสินค้า จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากที่สนใจสินค้าหรือบริการที่จัดแสดง ให้มาเดินเลือกชม 

มันจึงเป็นการเปิดโอกาสให้คุณ ได้ทำการตลาดโดยตรงกับกลุ่มคนจำนวนมาก ที่รับประกันว่าจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของคุณแน่นอน! 

และคุณยังได้รับประโยชน์จากการที่ ได้โต้ตอบกลุ่มลูกค้าด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถของคุณเองในการเปลี่ยนคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า กลายเป็นลูกค้าจริง ๆ 

งานแสดงสินค้ายังช่วยให้คุณสามารถสร้างเครือข่ายกับธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมของคุณอีกด้วยนะ

เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ซึ่งอาจจะพัฒนาไปได้ถึงระดับประเทศหรือระดับสากลเลยก็ได้… 🙂 

5.ลองใช้ Niche Market

หากคุณไม่ต้องการขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ ๆ ยังมีอีกทางหนึ่งคือ 

การใช้ “Niche Market” มันคือ การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง และมีความแตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคโดยทั่วไป และมันถูกกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบแคบ ๆ ไว้แล้ว 

ตลาดกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจมากนัก เพราะมันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ถ้าคุณเน้นตอบสนองความต้องการพวกเขา ด้วยคุณภาพระดับสูงและเข้าถึงพวกเขามากพอ

ไม่แน่นะ มันอาจสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นหลายสิบเท่าเลยแหละค่ะ!! 

Tips : เพื่อสร้างความเติบโตให้เลือกกลุ่มที่ 

  • มีความสนใจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในธุรกิจของคุณมากพอ
  • สร้างยอดขายได้มาก 
  • เป็นตลาดที่มีมูลค่า กำหนดราคาสูงได้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดแม้จะขายได้น้อยลง 
ผู้หญิงสองคนกำลังเลือกเสื้อผ้า

6. พัฒนาโอกาสการทำแฟรนไชส์

หากธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จจนถึงขั้นที่ว่า ถ้าผู้อื่นทำซ้ำแล้วต้องสำเร็จเหมือนกันแน่ ๆ  “การทำ แฟรนไชส์ ” เป็นช่องทางที่รวดเร็วมากๆ สำหรับการขยายธุรกิจ 

จุดสำคัญ : การทำแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ มันก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์นั้น ๆ ว่ามีความน่าสนใจในวงกว้างมากแค่ไหนในหลาย ๆ พื้นที่ ตลอดจนเป็นรูปแบบธุรกิจ ที่สามารถทำซ้ำและส่งต่อได้ง่าย 

ในการทำแฟรนไชส์ คุณจะต้องสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีตราสินค้าของคุณเอง และใช้รูปแบบธุรกิจของคุณ ส่งต่อไปให้เจ้าของธุรกิจคนอื่น 

ประโยชน์ของมันคือ  

  • จะช่วยขยายการเข้าถึงไปยังสถานที่ใหม่ ๆ 
  • สร้างแบรนด์ ให้เกิดการจดจำในวงกว้างมากยิ่งขึ้น 
  • สร้างรายได้ใหม่ จากการขายแฟรนไชส์

7. ขยายไปที่การส่งออกต่างประเทศ 

การขยายธุรกิจแบบนี้ คล้าย ๆ กันกับแฟรนไชส์ ที่คุณต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเข้าถึงลูกค้าในทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย 

แต่อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างยิ่งใหญ่และยากมาก ต้องใช้เวลานานและใช้ทรัพยากรเยอะมาก ๆ 

การขยายธุรกิจในระดับสากล อาจมีความซับซ้อนตามกฎหมายค่ะ เนื่องจากคุณจะต้องจัดการกับข้อจำกัดของกฎหมายการค้า และศุลกากรในหลายประเทศ

อีกอย่างคือ คุณอาจต้องมีใบอนุญาตส่งออก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ของคุณ และประเทศที่คุณต้องการส่งออกด้วย

หากคุณมีเวลามากพอและมีความพร้อมในการส่งออกผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้คุณเติบโตไปสู่ตลาดใหม่ ๆ อีกเยอะมาก (แบบที่วิธีอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้) ซึ่งมันสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ สำหรับการเติบโตในธุรกิจมาก ๆ แบบสูงที่สุดแล้วค่ะ

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม :

✔ สรุป 

การค้นหา กลยุทธ์การขยายธุรกิจ ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจของคุณคืออะไร และความพร้อมในทุกองค์ประกอบของธุรกิจของคุณมีมากแค่ไหน ลองพิจารณาสิ่งที่คุณต้องลงทุนดูค่ะ  เช่น เงิน, เวลา, ความเชี่ยวชาญ และบุคลากรที่มีความสามารถ 

เช่นเดียวกัน กลุ่มเป้าหมาย, ตลาดปัจจุบัน และผลประโยชน์ของลูกค้าของคุณ มันก็มีผลกระทบต่อการขยายธุรกิจของคุณเช่นกันค่ะ 

ไม่ใช่ทุกกลยุทธ์ที่เรากล่าวมา มันจะเหมาะกับทุกธุรกิจ หรือดึงดูดใจเจ้าของธุรกิจทุกคน ดังนั้น ในช่วง เริ่มต้นธุรกิจ คุณอาจจะลอง :

  1. เลือกแนวคิดหนึ่งหรือสองข้อที่เหมาะสมกับธุรกิจและสถานการณ์ของคุณ
  2. สร้างแผนธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์นั้น
  3. กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการเติบโต รวมถึงค่าใช้จ่ายและรายได้
  4. คอยติดตามเกณฑ์มาตรฐานเหล่านี้เป็นประจำ เพื่อเช็คความคืบหน้าของคุณ

แน่นอนค่ะ… ว่าทุกอย่างคงไม่ง่ายเหมือนและรวดเร็วดั่งใจ คุณอาจจะยังไม่เจอทางที่ถูกต้องหรือเหมาะสมกับการขยายธุรกิจในทันทีทันใด

แต่คุณจะเห็นความคืบหน้าและได้เห็นหนทางในการพัฒนา

และหากคุณยังคงดำเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ถ้ากลยุทธ์หนึ่งไม่ได้ผล ให้เตรียมพร้อมที่จะถอยหลัง สร้างแผนใหม่แล้วลองอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนกว่าจะประสบความสำเร็จ อย่าท้อถอยนะคะ!! 

ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ จาก PN Storetailer กันด้วยนะ 🙂 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก :

ใส่ความเห็น