ในช่วง 2-3 ปีแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจ ร้านค้าหรือบริษัทส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ความอยู่รอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี เมื่อทุกอย่างอยู่ตัวแล้ว
เจ้าของธุรกิจหลายคนคงมีความคิดที่อยากจะ “ขยายธุรกิจ” กันใช่ไหมล่ะคะ?
แต่คุณอาจยังคิดไม่ออก หรือมองหากลยุทธ์ต่าง ๆ ได้ไม่ชัดเจน
บทความนี้ Pn Storetailer ก็เลยจะมา บอกต่อกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการขยายร้านค้าหรือธุรกิจของคุณให้เติบโตจากขนาดเล็กไปเป็นขนาดใหญ่ได้!
แล้วจะทำยังไงได้บ้างนะ.. ตามมาอ่านกันค่ะ 🙂
เลือกเรื่องที่จะอ่าน ☟
1. รักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ดี
การหาลูกค้าใหม่ ๆ อาจไม่ใช่วิธีเดียวที่จะขยายธุรกิจของคุณนะคะ หลายครั้งที่ลูกค้าเก่า ๆ ของคุณนั่นแหละ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดขาย
จากการศึกษาของ Superoffice บอกไว้ว่า
“การดึงดูดลูกค้าใหม่ ทำให้บริษัทคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 5-25 เท่า! ในขณะที่การรักษาลูกค้าเก่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 5% แต่กลับเพิ่มผลกำไรให้บริษัทได้มากถึง 75%!!”
ตารางแสดงสิ่งที่มีผลต่อรายได้ของร้านค้าปลีกมากที่สุด (อันดับ 1 คือ การรักษาลูกค้า 52%) ภาพจาก Superoffice
ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากคุณไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าจากคุณอีกครั้งค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพวกเขาได้รับประสบการณ์ บริการลูกค้า ที่ดีจากร้านนั้น ๆ
ลองเก็บข้อมูลการช้อปปิ้งของลูกค้าขาจร ว่าเขามีพฤติกรรมยังไง? มีความชอบแบบไหน? จากนั้นใช้ข้อมูลดังกล่าว นำไปวางแผนการตลาด เพื่อจะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้าขาประจำ ที่กลับมาซื้อซ้ำอยู่เรื่อย ๆ
Tips ★ : ใช้กลยุทธ์ผสมผสานระหว่างการรักษาลูกค้าเก่า กับการหาลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตที่ดีที่สุดให้ธุรกิจของคุณค่ะ
2. ขอให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณแนะนำคนอื่นต่อ
แน่นอนว่า.. การหาลูกค้าใหม่ ๆ ก็เป็นแนวทางที่ดีอีกทางหนึ่ง(รองจากการรักษาลูกค้าเก่า) ที่จะทำให้คุณขยายธุรกิจไปได้
วิธีในการหาลูกค้าใหม่ ๆ ได้คือ “ขอให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณแนะนำคนอื่นต่อ”
ลูกค้าเหล่านี้ เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า ผู้คนในแวดวงสังคมหรือคนในที่ทำงานของพวกเขา ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดเป้าหมายของคุณเช่นกัน ตรงนี้มันจึงเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดี ไปสู่ลูกค้าใหม่ ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม.. สมมติว่าลูกค้าของคุณ แนะนำธุรกิจของคุณแบบผ่าน ๆ ไม่ได้จริงจัง ก็มีสิทธิ์สูงที่มันจะไม่ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า
คุณต้องหาวิธีที่จะทำให้เกิดการบอกต่ออย่างจริงจัง ขึ้นอยู่กับประเภท และขนาดของธุรกิจของคุณว่าจะสามารถทำได้ถึงระดับไหน
เราขอแนะนำคร่าว ๆ ว่า
- ลองถามลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์ของคุณว่า มีใครอีกบ้าง ที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
- กระตุ้นให้ลูกค้าปัจจุบันแนะนำต่อด้วยรหัสส่วนลด
- กระตุ้นให้ลูกค้าปัจจุบันโพสต์, แท็ก, แชร์ แบรนด์ของคุณลงในโซเชียลมีเดีย
อ่านเพิ่มเติม :
3. ขยายร้านค้าของคุณ
มีหลายวิธีในการขยายธุรกิจ โดยการทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ พร้อมใช้งานสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
- เปิดร้านค้าในสถานที่ใหม่
สถานที่ใหม่ในที่นี้ เป็นได้หลายแบบ นอกจากจะเป็นสาขาที่เป็นที่ตั้งใหม่แล้ว ยังสามารถเป็นการเปิดร้านออนไลน์ได้
เช่น เว็บไซต์ที่มีร้านค้าออนไลน์ วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณ ต่อลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ ได้ค่ะ
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายประชากรใหม่
ลองระบุกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ที่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ ในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายเริ่มต้นที่เป็นลูกค้าเก่า
เมื่อคุณระบุตลาดใหม่ได้แล้ว คุณโฆษณาสื่อออกไปในกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ หรือจะสร้างแคมเปญการตลาดแล้วกำหนดให้เหมาะสม
- ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา
การทำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ช่วยให้คุณสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเก่าหรือลูกค้าปัจจุบันกลับมาซื้อมากขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ที่อาจต้องการผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยค่ะ
วิธีการทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสามารถ “ขยายส่วนแบ่งตลาดได้” สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มยอดขาย แต่ยังทำให้ โมเดลธุรกิจ ของคุณมีเสถียรภาพมากขึ้น
เพราะคุณไม่พึ่งพาลูกค้าเป้าหมายเพียงกลุ่มเดียว แต่คุณมีแนวโน้มที่จะอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
4. เข้าร่วมงานแสดงสินค้า
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม เมื่อมีการจัดงานแสดงสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ให้รีบลงสมัครเลยค่ะ เพราะในงานแสดงสินค้า จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากที่สนใจสินค้าหรือบริการที่จัดแสดง ให้มาเดินเลือกชม
มันจึงเป็นการเปิดโอกาสให้คุณ ได้ทำการตลาดโดยตรงกับกลุ่มคนจำนวนมาก ที่รับประกันว่าจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของคุณแน่นอน!
และคุณยังได้รับประโยชน์จากการที่ ได้โต้ตอบกลุ่มลูกค้าด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถของคุณเองในการเปลี่ยนคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า กลายเป็นลูกค้าจริง ๆ
งานแสดงสินค้ายังช่วยให้คุณสามารถสร้างเครือข่ายกับธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมของคุณอีกด้วยนะ
เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ซึ่งอาจจะพัฒนาไปได้ถึงระดับประเทศหรือระดับสากลเลยก็ได้… 🙂
5.ลองใช้ Niche Market
หากคุณไม่ต้องการขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ ๆ ยังมีอีกทางหนึ่งคือ
การใช้ “Niche Market” มันคือ การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง และมีความแตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคโดยทั่วไป และมันถูกกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบแคบ ๆ ไว้แล้ว
ตลาดกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจมากนัก เพราะมันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ถ้าคุณเน้นตอบสนองความต้องการพวกเขา ด้วยคุณภาพระดับสูงและเข้าถึงพวกเขามากพอ
ไม่แน่นะ มันอาจสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นหลายสิบเท่าเลยแหละค่ะ!!
Tips : เพื่อสร้างความเติบโตให้เลือกกลุ่มที่
- มีความสนใจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในธุรกิจของคุณมากพอ
- สร้างยอดขายได้มาก
- เป็นตลาดที่มีมูลค่า กำหนดราคาสูงได้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดแม้จะขายได้น้อยลง
6. พัฒนาโอกาสการทำแฟรนไชส์
หากธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จจนถึงขั้นที่ว่า ถ้าผู้อื่นทำซ้ำแล้วต้องสำเร็จเหมือนกันแน่ ๆ “การทำ แฟรนไชส์ ” เป็นช่องทางที่รวดเร็วมากๆ สำหรับการขยายธุรกิจ
จุดสำคัญ : การทำแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ มันก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์นั้น ๆ ว่ามีความน่าสนใจในวงกว้างมากแค่ไหนในหลาย ๆ พื้นที่ ตลอดจนเป็นรูปแบบธุรกิจ ที่สามารถทำซ้ำและส่งต่อได้ง่าย
ในการทำแฟรนไชส์ คุณจะต้องสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีตราสินค้าของคุณเอง และใช้รูปแบบธุรกิจของคุณ ส่งต่อไปให้เจ้าของธุรกิจคนอื่น
ประโยชน์ของมันคือ
- จะช่วยขยายการเข้าถึงไปยังสถานที่ใหม่ ๆ
- สร้างแบรนด์ ให้เกิดการจดจำในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
- สร้างรายได้ใหม่ จากการขายแฟรนไชส์
7. ขยายไปที่การส่งออกต่างประเทศ
การขยายธุรกิจแบบนี้ คล้าย ๆ กันกับแฟรนไชส์ ที่คุณต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเข้าถึงลูกค้าในทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย
แต่อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างยิ่งใหญ่และยากมาก ต้องใช้เวลานานและใช้ทรัพยากรเยอะมาก ๆ
การขยายธุรกิจในระดับสากล อาจมีความซับซ้อนตามกฎหมายค่ะ เนื่องจากคุณจะต้องจัดการกับข้อจำกัดของกฎหมายการค้า และศุลกากรในหลายประเทศ
อีกอย่างคือ คุณอาจต้องมีใบอนุญาตส่งออก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ของคุณ และประเทศที่คุณต้องการส่งออกด้วย
หากคุณมีเวลามากพอและมีความพร้อมในการส่งออกผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้คุณเติบโตไปสู่ตลาดใหม่ ๆ อีกเยอะมาก (แบบที่วิธีอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้) ซึ่งมันสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ สำหรับการเติบโตในธุรกิจมาก ๆ แบบสูงที่สุดแล้วค่ะ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม :
✔ สรุป
การค้นหา กลยุทธ์การขยายธุรกิจ ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจของคุณคืออะไร และความพร้อมในทุกองค์ประกอบของธุรกิจของคุณมีมากแค่ไหน ลองพิจารณาสิ่งที่คุณต้องลงทุนดูค่ะ เช่น เงิน, เวลา, ความเชี่ยวชาญ และบุคลากรที่มีความสามารถ
เช่นเดียวกัน กลุ่มเป้าหมาย, ตลาดปัจจุบัน และผลประโยชน์ของลูกค้าของคุณ มันก็มีผลกระทบต่อการขยายธุรกิจของคุณเช่นกันค่ะ
ไม่ใช่ทุกกลยุทธ์ที่เรากล่าวมา มันจะเหมาะกับทุกธุรกิจ หรือดึงดูดใจเจ้าของธุรกิจทุกคน ดังนั้น ในช่วง เริ่มต้นธุรกิจ คุณอาจจะลอง :
- เลือกแนวคิดหนึ่งหรือสองข้อที่เหมาะสมกับธุรกิจและสถานการณ์ของคุณ
- สร้างแผนธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์นั้น
- กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการเติบโต รวมถึงค่าใช้จ่ายและรายได้
- คอยติดตามเกณฑ์มาตรฐานเหล่านี้เป็นประจำ เพื่อเช็คความคืบหน้าของคุณ
แน่นอนค่ะ… ว่าทุกอย่างคงไม่ง่ายเหมือนและรวดเร็วดั่งใจ คุณอาจจะยังไม่เจอทางที่ถูกต้องหรือเหมาะสมกับการขยายธุรกิจในทันทีทันใด
แต่คุณจะเห็นความคืบหน้าและได้เห็นหนทางในการพัฒนา
และหากคุณยังคงดำเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ถ้ากลยุทธ์หนึ่งไม่ได้ผล ให้เตรียมพร้อมที่จะถอยหลัง สร้างแผนใหม่แล้วลองอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนกว่าจะประสบความสำเร็จ อย่าท้อถอยนะคะ!!
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ จาก PN Storetailer กันด้วยนะ 🙂
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก :
-
How to Transform Your Small Business Into a Big Business by thebalancesmb
-
Customer Retention: 7 Unique Strategies to Increase Profits by superoffice
-
พลังของ Niche Market คิดแบบเล็ก ๆ แต่ได้อะไรใหญ่ ๆ by marketingoops